“สัญชาตญาณ” ก็เหมือน “ความคิดสร้างสรรค์” นั่นคือได้รับแรงผลักดันจากจิตใต้สำนึก ซึ่งมักปรากฏขึ้นอย่างลึกลับและเข้าใจได้ยากมากๆ… ทว่าสัญชาตญาณต่างกับความคิดสร้างสรรค์หลายๆ แบบ เพราะสัญชาตญาณจะเกิดขึ้น “ในชั่วแวบเดียว” และให้ข้อมูลแก่คุณแบบฉับพลัน…
มันเป็นแค่ความรู้สึกเท่านั้นหรือ?
เวลาเริ่มจัดการปัญหา หรือตัดสินใจเป็นครั้งแรก… เป็นธรรมดาที่คุณจะตอบสนองกลับทันทีทันใด นั่นคือการตอบสนองไปตาม “สัญชาตญาณ”
แต่คุณอาจไม่สนใจความรู้สึกนั้น เพราะไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? และหาเหตุผลกับความรู้สึกเหล่านี้ไม่เคยได้เลย? จะเกิดประโยชน์มาก หากคุณหันมาใส่ใจ “ลางสังหรณ์เบื้องต้นเหล่านี้” มากขึ้น เพราะมีผลการวิจัยแนะนำว่า “ความรู้สึกแบบนี้มักชี้นำไปในทางที่ถูกต้อง”
สัญชาตญาณมักเกิดกับเรื่องที่คุณมีประสบการณ์มากอยู่แล้ว เช่น เราล้วนเคยชินกับการพูดคุยสื่อสารกับผู้อื่น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เรื่องนี้เราค่อนข้างมี “ความรู้สึกตามสัญชาตญาณ” อย่างมาก ที่จะชอบหรือไม่ชอบ… ไว้ใจหรือไม่ไว้ใจ… ทำนองเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้มากมายในสาขาใดสาขาหนึ่ง พวกเขามักนำประสบการณ์มาใช้ประเมินเรื่องต่างๆ ได้แม่นยำและรวดเร็ว ตามจิตใต้สำนึก!
ควรทำตามสัญชาตญาณดีไหม!?
เนื่องจาก “จิตใต้สำนึก” ของคุณ ตอบสนองและรวบรวมข้อมูลได้มากกว่า “จิตสำนึก” ดังนั้น เมื่อต้องตัดสินใจเรื่องซับซ้อน ขอให้ฟังความรู้สึกตามสัญชาตญาณก่อน… ส่วนเรื่องง่ายๆ ให้ลองหาคำตอบด้วยการใช้เหตุผล
มีกรณีหลักสองกรณีที่คุณควรใช้สัญชาตญาณอย่างระมัดระวัง กรณีแรก คือเมื่อรู้สึกกลัว หรือเกิดความปรารถนาอย่างรุนแรง เพราะความรู้สึกนี้อาจทำให้คุณไม่สามารถตัดสินเรื่องต่างๆ โดยใช้สัญชาตญาณที่แท้จริงได้ และกรณีที่สอง คือเมื่อต้องเจอเรื่องที่ไม่มีประสบการณ์เลย (หรือมีประสบการณ์น้อยมากๆ) ที่จะนำมาเป็นพื้นฐานในการใช้สัญชาตญาณ
วิธีใช้สัญชาตญาณให้ได้ผลมากที่สุด
ขั้นที่ 1
สังเกตความประทับใจครั้งแรกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความรู้สึกพวกนี้วิ่งไปมาผ่านจิตสำนึกของคุณเหมือนผีเสื้อ ลองฝึกจับความรู้สึกเหล่านี้ โดยใช้ความตั้งใจของคุณนั่นล่ะเป็นตาข่าย! แล้วอย่าลืมจดบันทึกทุกครั้งเวลาคุณมีอารมณ์ตอบสนองต่อสถานการณ์ใดเป็นพิเศษ…
ขั้นที่ 2
เวลาเกิดความประทับใจในช่วงแรกๆ ลองตั้งคำถามว่า อะไรที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกนี้? เหตุผลที่เกิดความประทับใจแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะอะไร? ใช่เพราะรายละเอียดบางอย่างหรือเปล่า (ที่คุณรับมาโดยไม่รู้ตัว) ที่สติของคุณเห็นว่าเรื่องนั้นไม่สำคัญ?
ขั้นที่ 3
ถามตัวเองว่า “จะเกิดอะไรขึ้น หากฉันไว้ใจความรู้สึกนี้ แล้วทำตามความรู้สึกนี้?”
ขั้นที่ 4
ตรวจสอบสมมติฐานของคุณเอง เพื่อให้แน่ใจว่า การโต้ตอบของคุณไม่ได้มีพื้นฐานมาจากความเข้าใจผิด เพราะการตอบโต้ไป “เพียงเพราะรู้สึกว่าน่าจะถูกต้อง” บางครั้งก็อาจมาจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้นะ…
บ่อยครั้งที่เรามัวหา “เหตุผล” ให้กับการกระทำ หรือการตัดสินใจ… เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ยุ่งยาก ลองสงบสติอารมณ์ พยายามไม่ฟุ้งไปกับความคิด แล้วลงมือทำตาม “สัญชาตญาณแรก” ที่ตอบสนอง… บ่อยครั้งเรื่องที่ดูเหมือนซับซ้อน กลับสามารถคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คุณเชื่อ “คำตอบแรกที่อยู่ในใจคุณ” นั่นเอง!
เรียบเรียงโดย LEARNING HUB THAILAND