คนเรามักใช้จินตนาการกันอย่างฟุ่มเฟือย จนหลายครั้งจินตนาการก็กลายเป็นความฟุ้งซ่านที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ถ้าสังเกตให้ดี เราจะพบความสัมพันธ์ระหว่างจินตนาการกับเวลาเพราะขณะที่เรากำลังจินตนาการ จิตใจของเราจะอยู่กับอดีต
หรือไม่ก็อนาคตแต่ถ้าอยู่กับปัจจุบัน จินตนาการจะไม่สามารถแทรกตัวเข้ามาได้ เพราะจิตไม่มีช่องว่างใดๆให้คิดปรุงแต่งนัก และนี่คือหลักการง่ายๆ ของการทำสมาธิ หรือการเจริญสติ
สมาธิ คือ การอยู่กับปัจจุบัน กำหนดลมหายใจอยู่กับสิ่งที่ทำ ให้รู้ถึงความเคลื่อนไหวของมัน ไม่ว่าจะขยับมือ รับประทานอาหาร ยืน เดิน หรือกระทำสิ่งใดๆ คนที่อยู่กับปัจจุบัน จะพูดว่า ทำงาน เพื่อ ทำงานแต่คนที่อยู่กับอดีตและอนาคตจะบอกว่า ทำงาน เพื่อ…ความสุขบ้าง
เพื่อ…ความสำเร็จบ้าง
เพื่อ…ความก้าวหน้าบ้าง
เพื่อ…ความฝันบ้าง
เพื่อ…ความรักบ้าง
การอยู่กับสิ่งใดที่ไม่ใช่ปัจจุบัน คือ การเปิดพื้นที่ให้กับความคาดหวัง กิเลส และความต้องการเข้ามาแทรก และนั่นก็เป็นที่มาของความฟุ้งซ่านนั่นเอง
“ทำวันนี้ให้ดีที่สุด” เราคงเคยได้ยินประโยคนี้บ่อยๆ ระยะหลังๆ มักมีผู้ต่อเติมให้สมบูรณ์ขึ้นว่า… “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วอนาคตจะดูแลตัวมันเอง” เพราะอดีต เป็นเพียงภาพสะท้อนจากความทรงจำ ที่อาจมีการปรุงแต่งเพิ่มเติม ส่วนอนาคตยังไม่เกิดขึ้น เป็นเพียงเงาจากจินตนาการ ที่ไม่เคยมีอยู่ ดังนั้น สิ่งที่ควรให้ความสำคัญที่สุด ก็คือ เวลา ณ ขณะนี้”
“กิน เพื่อ กิน”
“ทำ เพื่อ ทำ”
“ดู เพื่อ ดู” ทำสิ่งใด เพื่อสิ่งนั้น
เพื่อปัจจุบันอย่างแท้จริง!!!
บทความโดย
พศิน อินทรวงค์
ติดตามผลงานได้ที่เพจ https://www.facebook.com/talktopasin2013