
เรียนรู้จากงานยังไงให้เก่งเร็วขึ้น
คนส่วนใหญ่มีทัศนคติว่าการศึกษาการเรียนรู้ต้องเกิดขึ้นในตอนที่เราเป็นเด็ก ต้องเกิดขึ้นในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ต้องเกิดขึ้นในระบบที่กระทรวงศึกษาธิการออกแบบมาเท่านั้น
ซึ่งถ้าทัศนคติเช่นนั้นเป็นทัศนคติที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นจริง คนส่วนใหญ่บนโลกก็คงประสบความสำเร็จไปแล้ว คนที่ประสบความสำเร็จมีคุณสมบัติประการหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การเป็นนักเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา
====
ที่บอกแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะมาสนับสนุนให้คุณไปเรียนต่อเอาใบปริญญามาประดับฝาบ้านเพิ่ม เพราะการทำเช่นนั้นก็หมายความว่าคุณยังหนีไม่พ้นทัศนคติของคนส่วนใหญ่ที่ผมบอกไปอยู่ดี
การเรียนรู้ที่แท้จริงเกิดขึ้นที่หัวใจซึ่งเปิดกว้างและกระหายที่จะรู้ เข้าใจ และเปลี่ยนแปลง เมื่อมีทัศนคติที่ถูกต้องแล้วต่อให้คุณมีอาชีพการงานที่ต้องทำทุกวันคุณก็สามารถเรียนรู้ได้อยู่ตลอด
เพราะการทำงานก็เป็น ‘ห้องเรียน’ ที่ดีที่สุดห้องหนึ่งเลยทีเดียว
====
เราจะเรียนรู้จากการทำงานได้อย่างไร
ในตำราการบริหารจัดการยุคใหม่หรือ Management 3.0 และหลักการบริหารแบบ Agile (หลักการทำงานที่เน้นการสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย) มีเครื่องมือหนึ่งที่มีประโยชน์มากในการเรียนรู้จากการทำงานจริง
เครื่องมือนั้นชื่อ Celebration Grid
Celebration Grid คือ แผนภาพไดอะแกรมที่เป็นแกนตั้งฉากระหว่างพฤติกรรมกับผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งจะบอกส่วนผสมระหว่าง ความสำเร็จ (Success) กับ ความล้มเหลว (Failure) ที่เกิดขึ้น
ในขณะที่คนส่วนใหญ่โหยหาแต่ความสำเร็จ ซึ่งดูเผิน ๆ ก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่การทำเช่นนั้นจะทำให้เราไม่ได้เรียนรู้และไม่เกิดนวัตกรรม การแก้ปัญหาใหม่ ๆ
====
แก่นแท้ของการเรียนรู้จากความล้มเหลว
Celebration Grid แสดงให้เราเห็นชัดเจนว่า ณ พื้นที่ที่ประกอบไปด้วยความสำเร็จจากการทำตามสูตรเดิม และ ความล้มเหลวจากการทดลองอะไรใหม่นั่นแหล่ะคือพื้นที่ที่เราจะได้เรียนรู้มากที่สุด
เพราะถ้าเรายึดติดกับความสำเร็จเราจะไม่กล้าทดลองอะไรใหม่ ๆ และนั่นจะทำให้เราไม่ได้เรียนรู้ ส่วนถ้ามุทะลุบ้าบิ่นทำแต่สิ่งใหม่
ทดลองมันร่ำไปเราอาจจะพบแต่ความผิดพลาดล้มเหลวจนสูญเสียกำลังใจและไม่ได้เรียนรู้เช่นกัน
คำถามสองข้อที่เราควรถามตัวเองและทีมเมื่อทำโปรเจคต่าง ๆ เสร็จสิ้น(หรือทำงานเสร็จในแต่ละสัปดาห์) ก็คือ
อะไรบ้างที่เราทำได้ดี (เรามีหลักปฏิบัติที่ดีอย่างไรบ้าง)
อะไรบ้างที่เราได้เรียนรู้ (เราได้ทดลองทำอะไรใหม่ ๆ บ้าง)
รักษาสมดุลระหว่างคำถามทั้งสองข้อนี้ให้ได้เรื่อย ๆ แล้วคุณจะพบว่าตัวเองกลายเป็นนักเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงที่มีห้องเรียนที่ชื่อว่า ‘การทำงาน’ นั่นเอง
====
เรียบเรียงโดย อ. เวย์ เวสารัช โทณผลิน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ในองค์กร (Learning Organizations expert)
Learning Hub Thailand เราพัฒนาคนในองค์กร เพื่อเพิ่มศักยภาพและทำงานอย่างมีความสุข
ปรึกษาเรื่องการพัฒนาทีมในองค์กร ติดต่อ Line @lhtraining หรือ โทร 094 959 2645
Recent Posts
- อยากสำเร็จต้องเปลี่ยนการ ‘รู้ตัว’ ให้เป็นการ ‘ปรับตัว’ ด้วยวิธีนี้
- วิธีฝึก Self – Awareness แบบ Step by Step
- สุดยอดเทคนิคเพิ่มพลังการโน้มน้าวใจให้ได้ผล
- 3 กติกาง่าย ๆ ที่ทำให้ทุกฝ่ายมีความสุขในการประชุม
- 4 เทคนิคสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ภายในทีม
- ยิ่งเป็นอิสระจากความคิดชีวิตยิ่ง Productive
- สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้นำเก่ง ๆ ‘ล้มเหลว’
- ระวัง! คุณอาจเป็นหัวหน้าที่พูดจนทีมพัง
- 4 สิ่งสำคัญที่ควรเตรียมพร้อมก่อนคุยเรื่องยาก
- Active Listening ทักษะการฟังที่ช่วยให้งานสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพสูง