10 เทคนิคใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด

บางคนคิดว่าความฉลาดเป็นสิ่งที่สะสมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย และยากที่จะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาได้ แต่ในความเป็นจริง หากเราดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องเหมาะสม ก็จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและฉลาดมากขึ้นด้วย บทความนี้จะช่วยเปิดเผยเทคนิค 10 ข้อที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด

1.ตั้งคำถามและหาคำตอบอยู่เสมอ

ตอนเด็กๆเรามักสงสัยถึงสิ่งต่างๆบนโลกใบนี้ บางครั้งเราตั้งคำถามบ้าๆบอๆกับพ่อแม่  เช่น ทำไมท้องฟ้าจึงเป็นสีฟ้า ทำไมสุนัขเห่าโฮ่งๆ ทำไมแมวร้องเหมียวๆ แต่เมื่อเราเติบโตขึ้น เราวุ่นวายกับชีวิตมากขึ้น จนทำให้ความสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับโลกและสิ่งรอบตัวหายไป

แต่ทว่า เราควรรักษาจินตนาการเหล่านั้นไว้ โดยการตั้งคำถามและหาคำตอบอย่างสม่ำเสมอ คุณอาจจดบันทึกความคิดหรือสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัว และเมื่อคุณถึงบ้าน คุณควรค้นหาคำตอบต่างๆที่คุณได้จดเอาไว้ แม้ว่าความรู้ที่คุณได้รับจะไม่เกี่ยวข้องกับงานของคุณโดยตรง แต่อย่างน้อยการแสวงหาความรู้จากความสนใจเล็กๆน้อยๆก็สามารถนำคุณไปสู่การค้นพบงานอดิเรกของชีวิต

2.อ่านเรื่องราวแปลกใหม่

เทคโนโลยีทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรใช้เวลาทั้งวันในการเลื่อนดูภาพและเรื่องราวต่างๆในเฟสบุค ในทางกลับกัน คุณควรใช้แอพลิเคชั่นที่มีประโยชน์ เช่น Flipboard และ Longform แอพลิเคชั่นเหล่านี้รวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจรอบโลก นอกจากนี้ คุณไม่ควรอ่านข่าวในเว็บไซต์เดิมๆ ลองเปลี่ยนมาอ่านบทความที่แสดงความคิดเห็นในมุมที่แตกต่างที่จะช่วยให้คุณเปิดโลกทัศน์และอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณได้ ทั้งนี้ การอ่านเพื่อความบันเทิงก็มีประโยชน์เช่นกัน เช่น ช่วยให้คุณมีจิตใจที่กระชุ่มกระชวยและผลักดันให้คุณก้าวไปข้างหน้า

3.แบ่งปันและถ่ายทอดความรู้

การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมีความสำคัญมาก แต่การแบ่งปันและถ่ายทอดความรู้นั้นมีความสำคัญมากกว่า การแชร์เรื่องราวที่น่าสนใจผ่านทางเฟสบุคหรือการเล่าเรื่องด้วยการลงรูปถ่ายต่างๆสามารถช่วยถ่ายทอดเนื้อหาสาระ ความคิด รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกของคุณไปยังผู้อื่นได้ เช่น เพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่คนที่ไม่รู้จัก และสิ่งนี้จะทำให้คุณสามารถสร้างเครือข่าย หรือพบกับมิตรภาพที่ดีมากมาย

4.ประยุกต์ใช้ความรู้

หากคุณอ่านบทความให้คำแนะนำเรื่องหนึ่ง แต่คุณไม่นำเทคนิคหรือความรู้มาใช้ ก็เท่ากับว่าคุณเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ในการเรียนรูสิ่งใหม่ คุณก็ควรที่จะประยุกต์ใช้มันด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเล่นกีตาร์ และได้อ่านบทความเกี่ยวกับทฤษฎีทางดนตรี คุณก็ควรที่จะนำความรู้ที่คุณได้มาประยุกต์ใช้ในการเล่นกีตาร์ของคุณ

นอกจากนี้ การที่คุณถามตัวเองก่อนที่จะเรียนรู้ว่า “จะสามารถนำความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร” จะเป็นการกระตุ้นให้คุณมีเป้าหมายในการเรียนรู้ และช่วยให้คุณเกิดแรงบันดาลใจที่จะประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้ในชีวิตจริงมากขึ้น

5.แสวงหา และแลกเปลี่ยนความรู้กับบุคคลอื่น

โซเชียลมีเดีย เช่น ทวิตเตอร์ หรือเฟสบุค ทำให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ คุณควรใช้โอกาสนี้ในการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น กับบุคคลที่น่าสนใจและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่คุณ เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะช่วยให้คุณมีความคิดและมุมมองใหม่ๆ ทั้งยังช่วยให้คุณเกิดแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่างๆอีกด้วย

6.ทำในสิ่งที่คุณกลัว และไม่เคยทำ

เรียนรู้ที่จะทำในสิ่งที่คุณรู้สึกประหม่าและกลัว เพราะสิ่งนี้ช่วยให้คุณมีความกล้าและแข็งแกร่งมากขึ้น กล่าวคือ หากคุณสามารถทลายกำแพงความกลัวได้ คุณจะพบว่าตัวคุณมีความสามารถมากกว่าที่คุณคิด ในช่วงแรกที่คุณลองทำสิ่งที่แปลกใหม่นั้น คุณอาจเริ่มทำกับกลุ่มเล็กๆหรือกลุ่มที่มีความสนิทสนมก่อนแล้วค่อยๆขยายวงกว้างมากขึ้น เช่น  หากคุณเริ่มเล่นกีตาร์เพลงใหม่ ให้คุณลองเล่นให้เพื่อนกลุ่มเล็กๆฟังก่อน จากนั้นก็เล่นให้เพื่อนร่วมงานฟัง จนกระทั่งเล่นต่อหน้ากลุ่มคนจำนวนมากที่คุณไม่รู้จัก เป็นต้น

7.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะทำให้คุณมีพลังและสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น คุณควรที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในทุกๆวัน ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เพื่อที่จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และสามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับชีวิต

8.เล่นเกมส์แทนการดูโทรทัศน์

การเล่นเกมส์ เช่น ปริศนาครอสเวิร์ด ทายคำ หรือวีดีโอเกมส์ ล้วนมีประโยชน์มากกว่าการดูโทรทัศน์ เกมส์เหล่านี้ทำให้สมองของคุณได้ใช้ความคิดตลอดเวลา และทำให้ฝึกความเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยพัฒนากระบวนการแก้ปัญหาซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในด้านต่างๆ

9.ออกกำลังกาย

นอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สุขภาพร่างกายของคุณแข็งแรงสมบูรณ์ เพราะถ้าหากร่างกายของคุณป่วย มันจะมีผลกระทบต่อจิตใจของคุณด้วย ดังนั้น คุณควรออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ โดยอาจเป็นช่วงเวลาสั้นๆของวัน หรือหากคุณไม่มีเวลามากพอ คุณอาจจะออกกำลังกายง่ายๆในการดำรงชีวิต เช่น การเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ หรือการเดินระยะไกลจากที่จอดรถมาถึงออฟฟิศที่ทำงาน เป็นต้น

10.ใช้เวลาในการพักผ่อนหย่อนใจ

สมองและร่างกายของคุณต้องการการพักผ่อนทุกวัน คุณควรนอนหลับวันละ 7-8 ชม. นอกจากนี้ คุณควรมีเวลาพักผ่อนหย่อนใจ โดยปราศจากสิ่งกระตุ้นภายนอกที่คอยรบกวนคุณ เช่น การนั่งสมาธิ โดยที่คุณอาจใช้เวลา 10 นาทีในการนั่งสมาธิก่อนนอน วิธีการนี้จะช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น และถ้าหากคุณทำตอนตื่นนอน จะทำให้คุณเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส หรือหากคุณนั่งสมาธิตอนกลางวัน คุณก็จะมีพลังในการทำงาน ในขณะที่คนอื่นๆอาจสัปหงกตอนบ่าย 2 โมง

http://www.lifehack.org/293674/10-habits-that-make-you-smarter-day-day

เรียบเรียงโดย ทีม Learning Hub Thailand

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Ads, Google Analytics

    Statistics

  • Google Analytics

    Statistics

  • Facebook

    Marketing/Tracking

  • ActiveCampaign

    Functional

  • ActiveCampaign

    Marketing/Tracking

Save