หลักสูตรที่แนะนำสำหรับผู้นำระดับผู้จัดการ

Executive Communication

ปัญหาสำคัญที่ผู้บริหารองค์กรต้องเผชิญในยุคนี้คืออะไร

ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม แต่เป็น “ปัญหาเรื่องคน”

ปัญหาเรื่องคน ที่พบบ่อยในการทำงาน มีอะไรบ้าง

  • คนลาออก เพราะทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานไม่ได้
  • การสื่อสารผิดพลาด ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความขัดแย้ง
  • ผู้คนไม่พูดในสิ่งที่คิด และมักกล่าวโทษว่าอีกฝ่ายเป็นคนผิด

ปัญหาเรื่องคน ล้วนเกิดจากปัญหา “การสื่อสาร” เมื่อระบบสังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้คนก็มีความแตกต่างหลากหลาย ทำให้การฟังของพวกเขามีข้อจำกัดมากขึ้น การสื่อสารจึงเป็นไปได้ยากขึ้น ไม่เกิดความร่วมมือกันในการทำงาน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ขององค์กรในยุคนี้

นั่นทำให้ผู้บริหารต้องเผชิญกับความท้าทาย ในการสร้างบรรยากาศและปรับวัฒนธรรมองค์กรให้เกิดความร่วมมือในการทำงานกันมากกว่ายุคใด ๆ

หลักสูตร “ทักษะการสื่อสารของผู้บริหารยุคใหม่” ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการสื่อสารและการบริหารคนในยุคใหม่ โดยเน้นให้ฝึกทักษะการฟังรูปแบบต่าง ๆ เช่น การฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) การฟังจับประเด็นเพื่อผลลัพธ์ (Active Listening) การฟังเสียงภายในตนเอง (Inner Listening) เพื่อความเข้าใจตัวเองและผู้อื่นอย่างถ่องแท้ และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างทีม (Team Communication)

สิ่งที่จะได้รับจากคอร์สนี้

  1.  ส่งเสริมทัศนคติและทักษะในการเป็นผู้นำและผู้บังคับบัญชาที่ดี
  2. พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร พูดอย่างไรให้คนฟัง ฟังอย่างไรให้คนพูด
  3. เกิดสัมพันธภาพและบรรยากาศที่ดีในการทำงาน มีพื้นที่แห่งความปลอดภัยและไว้วางใจต่อกัน
  4. สามารถเปิดใจรับฟังและสื่อสาร เข้าใจในเป้าหมายองค์กรและปรับจูนเพื่อจะทำงานไปด้วยกันได้

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ

  1. ผู้บริหารระดับสูง ผู้จัดการที่ต้องดูแลพนักงาน และประสานงานข้ามฝ่ายให้เกิดการทำงานเป็นทีม
  2. ผู้ที่ต้องการเพิ่มทักษะการสื่อสารและภาวะผู้นำในการบริหารคนและดูแลทีมงาน

Course Outline : เนื้อหาหลักสูตร ระยะเวลา 2 วัน เวลา 09.00 – 17.00 น.

Day 1 : Deep Listening & Dialogue

การฟังเป็นพื้นฐานของผู้นำ โดยทั่วไปแล้วคนที่ยิ่งมีประสบการณ์มากและอาวุโสมาก ทักษะการฟังจะน้อยลง นั่นทำให้เขาปิดกั้นการสื่อสารโดยที่ไม่รู้ตัว

โมดูลนี้ เน้นการสร้างทัศนคติให้เห็นถึงความสำคัญของการฟัง ฝึกทักษะการฟังอย่างลึกซึ้ง และสามารถใช้กระบวนการไดอะล็อกในการประชุมที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และรับฟังซึ่งกันและกัน

  • Learning Optimum State ข้อตกลงเพื่อประสิทธิภาพการเรียนรู้สูงสุด
  • Communication Breakdown ค้นหาสาเหตุของการสื่อสารที่ล้มเหลว
  • Autopilot Mode โหมดอัตโนมัติในความเป็นมนุษย์ ที่สร้างอุปสรรคในการสื่อสาร
  • Deep Listening ฝึกทักษะการฟังอย่างลึกซึ้ง
  • Dialogue In Action ฝึกทักษะการไดอะล็อก ภาคปฏิบัติ

ประโยชน์และการประยุกต์ใช้ศาสตร์แห่งการฟัง ในการทำงานและชีวิตประจำวัน

Day 2 : Active Listening & Communication Model

ผู้นำย่อมต้องสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำอย่างไรจึงจะสื่อสารโดยไม่ใช้อารมณ์รุนแรง พูดอย่างไรเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจและเต็มใจที่จะทำงานร่วมกัน

โมดูลนี้ เน้นฝึกทักษะของการสื่อสารและการฟังในขั้นสูงสำหรับผู้นำ เริ่มจากการฟังเสียงภายในเพื่อเข้าใจตนเองและผู้อื่น การฟังเพื่อผลลัพธ์และจับประเด็นหากมีเวลาจำกัด การสร้างขวัญกำลังใจให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น สร้างพื้นที่ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เห็นความสำคัญของการใช้ความรักในการบริหารงาน ไม่ใช่อำนาจและความกลัว

  • Listening Pitfall หลุมพรางในการฟัง 4 แบบ
  • Iceberg Model โมเดลภูเขาน้ำแข็งในการสื่อสาร
  • Inner Listening ฝึกทักษะการรับฟังเสียงภายในตนเอง
  • Active Listening ฝึกทักษะการฟังเพื่อผลลัพธ์และจับประเด็น
  • Communication Model ทักษะการสื่อสารกับคนที่แตกต่าง เพื่อการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ

การอบรมมี 2 Module

แต่ละ Module เป็นการอบรมเต็มวัน 0930-1630 รูปแบบการอบรม ไม่ใช่การนั่งเรียนแบบบรรยายและจดจำ แต่เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบพิเศษ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้มีประสบการณ์ตรงและได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ผ่านกระบวนการต่าง ๆ ที่นำมาจากการประยุกต์ 3 ศาสตร์ที่สำคัญต่อการเรียนรู้ในยุคใหม่เข้าด้วยกัน ได้แก่

  1. Positive Psychology หลักจิตวิทยาเชิงบวก เพื่อสร้างทัศนคติที่ใช่ เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายใน
  2. Neuroscience หลักวิทยาศาสตร์สมอง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้สูงสุด มีความเข้าใจ นำไปใช้ได้จริง
  3. Transformative Learning กระบวนการเรียนรู้ที่ผ่านประสบการณ์ตรง เพื่อสร้างพฤติกรรมใหม่ให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

Course Structure รูปแบบการอบรม

กิจกรรมสร้างประสบการณ์ เกม และ Workshop

45%

กิจกรรมตกผลึกความรู้จากผู้เรียน

35%

เนื้อหาทฤษฎี และ Storytelling

20%

วิทยากร

อ.เรือรบ 2

“อ. เรือรบ” จิณณ์ณัฏฐ์ พรหมนุรักษ์

CEO และผู้ก่อตั้ง Learning Hub Thailand
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการสื่อสารและการฟัง
  • นักเขียน ผลงานหนังสือจิตวิทยาพัฒนาตนเอง จำนวน 7 เล่ม

 สนใจหลักสูตรสำหรับองค์กรติดต่อ โทร 093 925 4962 หรือ Line ID: @lhtraining

หลักสูตรที่แนะนำสำหรับผู้นำระดับผู้บริหาร

Executive Communication

ทักษะการสื่อสารของผู้บริหารยุคใหม่

ปัญหาสำคัญ ที่ผู้บริหารองค์กรต้องเผชิญในยุคนี้ คืออะไร ?

ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม แต่เป็น “ปัญหาเรื่องคน”

ปัญหาเรื่องคน ที่พบบ่อยในการทำงาน มีอะไรบ้าง ?

  • คนลาออก เพราะทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้างานไม่ได้
  • การสื่อสารผิดพลาด ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความขัดแย้ง
  • ผู้คนไม่พูดในสิ่งที่คิด และมักกล่าวโทษว่าอีกฝ่ายเป็นคนผิด

ปัญหาเรื่องคน ล้วนเป็นเกิดจากปัญหา “การสื่อสาร” เมื่อระบบสังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้คนก็มีความแตกต่างหลากหลาย ทำให้การฟังของพวกเขามีข้อจำกัดมากขึ้น การสื่อสารจึงเป็นไปได้ยากขึ้น ไม่เกิดความร่วมมือกันในการทำงาน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ขององค์กรในยุคนี้

นั่นทำให้ผู้บริหารต้องเผชิญกับความท้าทาย ในการสร้างบรรยากาศ และปรับวัฒนธรรมองค์กรให้เกิดความร่วมมือในการทำงานกันมากกว่ายุคใดๆ

หลักสูตร “ทักษะการสื่อสาร ของผู้บริหารยุคใหม่” ออกแบบเฉพาะเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการสื่อสารและการบริหารคนในยุคใหม่ โดยเน้นให้ฝึกทักษะการฟังรูปแบบต่าง ๆ เช่น การฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) การฟังจับประเด็นเพื่อผลลัพธ์ (Active Listening) การฟังเสียงภายในตนเอง (Inner Listening) เพื่อความเข้าใจตัวเองและผู้อื่นอย่างถ่องแท้ และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างทีม (Team Communication)

สิ่งที่จะได้รับจากการอบรม

  1. ส่งเสริมทัศนคติและทักษะในการเป็นผู้นำ และผู้บังคับบัญชาที่ดี
  2. พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร พูดอย่างไรให้คนฟัง ฟังอย่างไรให้คนพูด
  3. เกิดสัมพันธภาพและบรรยากาศที่ดีในการทำงาน มีพื้นที่แห่งความปลอดภัยและไว้วางใจต่อกัน
  4. สามารถเปิดใจรับฟัง และสื่อสาร เข้าใจในเป้าหมายองค์กรและปรับจูนเพื่อจะทำงานไปด้วยกันได้

ระยะเวลา 2 วัน 9.00 – 16.30 น.
เนื้อหาการอบรม  

Day 1: Deep Listening & Dialogue

โมดูลนี้ เน้นการสร้างทัศนคติให้เห็นความสำคัญของการฟัง ฝึกทักษะการฟังอย่างลึกซึ้ง และสามารถใช้กระบวนการไดอะล็อคในการประชุมที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และรับฟังซึ่งกันและกัน

  • Learning Optimum State ข้อตกลงเพื่อประสิทธิภาพการเรียนรู้สูงสุด
  • Communication Breakdown ค้นหาสาเหตุของการสื่อสารที่ล้มเหลว
  • Autopilot Mode โหมดอัตโนมัติในความเป็นมนุษย์ ที่สร้างอุปสรรคในการสื่อสาร
  • Deep Listening ฝึกทักษะการฟังอย่างลึกซึ้ง
  • Dialogue In Action ฝึกทักษะการไดอะล็อค ภาคปฏิบัติ
  • ประโยชน์และการประยุกต์ใช้ศาสตร์แห่งการฟัง ในการทำงานและชีวิตประจำวัน

Day 2: Active Listening & Communication Model

โมดูลนี้ เน้นฝึกทักษะของการสื่อสารและการฟังในขั้นสูงสำหรับผู้นำ เริ่มจากการฟังเสียงภายในเพื่อเข้าใจตนเองและผู้อื่น การฟังเพื่อผลลัพธ์และจับประเด็นหากมีเวลาจำกัด การสร้างขวัญกำลังใจให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น สร้างพื้นที่ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เห็นความสำคัญของการใช้ความรักในการบริหารงาน ไม่ใช่อำนาจและความกลัว

  • Listening Pitfall หลุมพรางในการฟัง 4 แบบ
  • Iceberg Model โมเดลภูเขาน้ำแข็งในการสื่อสาร
  • Inner Listening ฝึกทักษะการรับฟังเสียงภายในตนเอง
  • Active Listening ฝึกทักษะการฟังเพื่อผลลัพธ์และจับประเด็น
  • Organization Health การวัดระดับสุขภาวะองค์กร
  • Team Culture การสร้างวัฒนธรรมและสร้างขวัญกำลังใจให้ทีม
  • Communication Model ทักษะการสื่อสารกับคนที่แตกต่าง เพื่อการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ

วิทยากร

CEO เรือรบ จิณณ์ณัฏฐ์ พรหมนุรักษ์

อ.เรือรบ จิณณ์ณัฏฐ์ พรหมนุรักษ์

CEO ผู้ก่อตั้ง Learning Hub Thailand
ผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาการสื่อสารและการฟัง
วิทยากร นักเขียน ผลงานหนังสือด้านจิตวิทยาพัฒนาตนเอง 7 เล่ม

 สนใจหลักสูตรสำหรับองค์กรติดต่อ โทร 093 925 4962 หรือ Line ID: @lhtraining

ปัจจุบัน “ปัญหาเรื่องคน” กลายเป็นปัญหาใหญ่ในองค์กร

เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล ระบบสังคมมีความซับซ้อน ผู้คนนั้นก็มีความแตกต่างหลากหลาย ทั้งในแง่ของประสบการณ์ การศึกษา ทัศนคติ ความเชื่อ ทำให้การฟังของพวกเขามีข้อจำกัดมากขึ้น การสื่อสารจึงเป็นไปได้ยากขึ้น ไม่เกิดความร่วมมือกันในการทำงาน กลายเป็นความขัดแย้งที่ไม่พึงปรารถนา

ต่อไปนี้เป็น 5 ปัญหายอดฮิตในการทำงาน คุณเจอบ้างหรือเปล่า ?

  1. ความเร่งรีบในการสื่อสาร ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดบ่อย
  2. อยากจะคุยด้วย แต่อีกฝ่ายไม่ค่อยพูด ไม่ยอมเสนอความเห็น
  3. ลูกน้องพยักหน้าเข้าใจ แต่พองานออกมา ไม่เหมือนที่สั่งไป
  4. วิธีการสื่อสารในแบบเราคนนึงรับได้ แต่กับบางคนรับไม่ได้ เอาใจไม่ถูก
  5. ปัญหาการลาออกส่วนใหญ่ เป็นเพราะมีปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้างาน

เพราะเหตุใด จึงเกิดปัญหาเหล่านี้ ?

เราจะพบว่ามีผู้บริหารอยู่ 2 ประเภทในองค์กร ที่ใช้หลักการบริหารที่ต่างกัน

การบริหาร ด้วย “ความกลัว”

โดยมากมักจะเกิดกับผู้บริหารแบบอนุรักษ์นิยม (Conservative Style) ด้วยความมั่นใจจากประสบการณ์และความสำเร็จในอดีต เขาจึงคิดว่าลูกน้องซึ่งเด็กกว่าและอ่อนประสบการณ์กว่า ควรจะเป็นฝ่ายเชื่อฟังและทำตาม โดยที่ไม่รู้ตัว เขามักจะใช้หลัก “6 บ.” ในการบริหารงาน นั่นคือ

ผลลัพธ์จากการบริหาร ด้วยความกลัว

พนักงานจะรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่ไว้วางใจ เมื่อเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ก็จะซุกไว้ด้วยกลัวความผิด อาจทำให้ปัญหาเล็กน้อยก็ลุกลามไปจนยากที่จะแก้ไข คนที่ไม่อยากถูกตำหนิ ก็คอยระวังตัวแจ จนไม่กล้าทำอะไร เห็นสิ่งที่ไม่เวิร์คก็จะเฉยชา องค์กรจะเป็นยังไงก็ช่าง ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ไม่มีความผูกพันกันในองค์กร ใครทนได้ทน ทนไม่ได้ก็ลาออกไป

เพื่อหลีกเลี่ยง “วัฒนธรรม 6 บ.” ซึ่งจะเป็นวงจรขาลงของการทำงานและส่งให้เกิดผลเสียมากมาย  จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ผู้บริหารและหัวหน้างาน ควรที่จะเรียนรู้ทักษะการสื่อสารของผู้บริหารยุคใหม่ และนำไปปรับใช้ในการทำงาน

การสื่อสารด้วย “ความรัก”

ผู้บริหารยุคใหม่ จำเป็นจะต้องแก้ปัญหาเรื่องคน ประสานงานให้เกิดการสื่อสารที่ลื่นไหลในองค์กรได้ “ความสัมพันธ์ที่ดี” จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น “เจ้านาย หรือ Boss” ที่เอาแต่สั่งการและตำหนิ ไปเป็น “ผู้หล่อเลี้ยง หรือ Mentor” ที่จะคอยรับฟังและให้การสนับสนุน

ทักษะการสื่อสาร ของผู้บริหารยุคใหม่ ได้แก่

1.การฟังเสียงภายในตนเอง (Inner Listening)

การที่จะรักผู้อื่นได้ ต้องเริ่มด้วยการรู้จัก เข้าใจและยอมรับในตนเองให้ได้ก่อน ดังนั้น ทักษะการฟังเสียงภายในตนเอง จะทำให้ผู้นำคนนั้น เข้าใจความรู้สึกและความต้องการของตนเองอย่างถ่องแท้ แล้วจะนำไปสู่ความเข้าใจผู้อื่นได้อย่างแท้จริง ซึ่งนั่นจะทำให้เขาสามารถมอบความรักและความเห็นอกเห็นใจ ให้กับผู้คนได้อย่างเป็นธรรมชาติ

2.การฟังเพื่อผลลัพธ์ (Active Listening)

การฟังเพื่อผลลัพธ์ เป็นทักษะที่ช่วยประหยัดเวลาในการฟังได้ อีกทั้งมีประสิทธิภาพอย่างสูง สามารถเก็บประเด็นได้ครบ และช่วยให้อีกฝ่ายได้แก้ปัญหาของตนเองด้วย

ซึ่งการจะฟังแบบนี้ต้องมีทักษะในการตั้งคำถามต่อยอด การสะท้อนอารมณ์ การทวนความ และการจับประเด็น เพื่อให้ผู้พูดรู้ว่า ผู้บริหารกำลังใส่ใจและรับฟัง อีกทั้งช่วยสนับสนุนให้เค้าแก้ปัญหาและหาทางออกด้วยตนเอง โดยไม่ชี้นำและสั่งการ

3.การสื่อสารด้วยใจกรุณา (Compassionate Communication)

ผู้บริหารยุค AEC ควรมีความมั่นคงในใจและเปิดเผย จะสามารถพูดจากความรู้สึก และความต้องการที่แท้จริง ออกมาจากใจอย่างตรงๆซื่อๆได้ โดยไม่ปิดบัง ไม่ต้องใช้กลยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมหว่านล้อมใดๆ การพูดแบบปากไม่ตรงกับใจ การพูดเป็นปริศนาที่ต้องทิ้งให้ผู้ฟังตีความเอง ย่อมทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเสียเวลา

ผู้นำที่ดี มีสติตระหนักรู้ว่า คำพูดที่ตรงไปตรงมาของเขา จะไม่ไปทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย เขาจะเลือกใช้คำพูดที่รับผิดชอบในความรู้สึกของตัวเองและไม่กล่าวหาโจมตีอีกฝ่าย

แทนที่จะพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “คุณเอ ทำไมงานที่สั่งไปทำไม่เสร็จ รู้ไหมว่าทำงานล่าช้าแบบนี้บริษัทเสียหาย คุณจะว่ายังไง”

ผู้นำจะเลือกใช้คำพูดที่แสดงถึงความรู้สึกและความต้องการแทน “คุณเอ ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเครียด เพราะงานที่เราต้องส่งลูกค้าไม่เสร็จตามกำหนด ผมต้องการรักษาเครดิตของบริษัท เราควรทำยังไงดี มีอะไรให้ผมช่วยเหลือบ้างมั้ย”

ผลลัพธ์จากการสื่อสาร ด้วย “ความรัก”

ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในการทำงาน เกิดความรักและผูกพันซึ่งกันและกัน บรรยากาศการทำงานเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำให้พนักงานรู้สึกอยากทำงานไปด้วยนานๆ อยากเห็นองค์กรเจริญเติบโต มีความรู้สึกเป็นเจ้าของ คอยระวังความผิดพลาดและจุดบกพร่องรั่วไหล มีความคิดสร้างสรรค์ทำสิ่งดีๆให้แก่องค์กรโดยไม่ต้องสั่ง และจะสร้าง “วัฒนธรรมแห่งความรัก”แบบนี้ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นต่อไป

ผู้นำในยุคดิจิตอล นอกจากจะมีทักษะในด้านการบริหารจัดการและเทคนิค (Hard Skill) ที่ดีแล้ว จึงต้องมีทักษะในด้านการบริหารคน (Soft Skill) ที่เป็นเลิศ

โดยเฉพาะ “ทักษะการสื่อสารและการฟัง” (Communication & Listening Skill) ถือเป็นทักษะหลักที่ผู้บริหารยุคใหม่ต้องให้ความสนใจและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ จึงจะสร้างแรงบันดาลใจและปลุกศักยภาพในผู้คน และนำพาองค์กรฟันฝ่าความผันผวนและความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของกระแสธุรกิจในอนาคตได้ต่อไป

บทความโดย “เรือรบ” ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการสื่อสาร

www.learninghubthailand.com

หากคุณต้องการเพิ่มศักยภาพการสื่อสารกับทีมงาน ขอแนะนำหลักสูตร

“Executive Communication : ทักษะการฟังและการสื่อสาร สำหรับผู้บริหารยุคใหม่”

9-10 มิ.ย. นี้ โดย อ.เรือรบ  ดูรายละเอียดคอร์ส คลิกที่นี่

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Ads, Google Analytics

    Statistics

  • Google Analytics

    Statistics

  • Facebook

    Marketing/Tracking

  • ActiveCampaign

    Functional

  • ActiveCampaign

    Marketing/Tracking

Save