เพราะสุขภาพจิตที่ดีสำคัญต่อการทำงานเป็นทีม 6 วิธีต่อไปนี้ช่วยได้!

พอล ซานตากาต้า หัวเรือใหญ่ของ Google กล่าวไว้ว่า “หากปราศจากความไว้เนื้อเชื่อใจ ย่อมไม่เกิดการทำงานเป็นทีม”

พอลรู้ซึ้งในความหมายของประโยคดังกล่าวจากการร่วมงานกับคนในทีมของเขาตลอดระยะเวลา 2 ปี

 

สิ่งที่เขาค้นพบว่าช่วยทำให้ทีมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด คือการมีสุขภาพจิตที่แข็งแรง

 

โดยสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อคนในทีมมีความเชื่อมั่นว่าตัวเองจะไม่ถูกลงโทษหากทำอะไรผิดพลาด

 

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่า การมีสุขภาพจิตที่แข็งแรงช่วยให้สามารถพูดในสิ่งที่คิดได้อย่างเต็มที่  มีความคิดสร้างสรรค์ และทำให้กล้าลงมือทำอะไรสักอย่างโดยไม่กลัวล้มเหลว

 

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการประสบความสำเร็จทั้งสิ้น

 

แล้วสมาชิกในทีมจะมีสุขภาพจิตที่แข็งแรงได้อย่างไร? คำตอบอยู่ที่ 6 ปัจจัยที่พอลนำมาใช้กับทีมงานแล้วเวิร์คสุด ๆ
====

1.จัดการกับปัญหาเพื่อผลลัพธ์ที่ทุกคนพอใจ

มนุษย์ส่วนใหญ่จะเกลียดความพ่ายแพ้มากกว่าอยากชนะเสียอีก แม้กระทั่งการทำงานในทีมเดียวกันก็ตาม

พอลรู้ดีว่าการจะประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริงนั้น ทุกฝ่ายจะต้องได้ผลลัพธ์ที่ win – win(ไม่มีใครแพ้) ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดความขัดแย้งขึ้นมา เขาจะหาทางแก้ปัญหาโดยการตั้งคำถามว่า “จะทำอย่างไรถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ทุกฝ่ายพึงพอใจ”
====

2. อย่าลืมว่าทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา

มนุษย์แต่ละคนย่อมต้องการความเคารพนับถือ ต้องการให้มีคนยกย่องว่าเป็นคนเก่ง มีความสามารถ และต้องการอิสระในการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง 

พอลจะหมั่นเตือนคนในทีมว่า เวลาคุยงานหรือต้องเจรจาเรื่องงานกับผู้อื่น ให้คิดเสมอว่าอีกฝ่ายก็เหมือนกับตัวเราที่อยากจบการสนทนานี้อย่างมีความสุข

 

เพราะพวกเขาต่างก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเราที่มีความเชื่อ มีมุมมอง และมีความคิดเป็นของตัวเอง ทุกคนมีความหวัง มีความกังวล มีความเปราะบางเป็นของตัวเอง ทุกคนมีเพื่อน มีครอบครัว และบางทีอาจมีลูกที่รักเหมือน ๆ กับเราด้วย

 

และที่สำคัญที่สุดเราต่างปรารถนาความสงบ ความสุข และความรื่นเริงเหมือนกัน
====

3. คาดการณ์และวางแผนรับมือกับปัญหาไว้ล่วงหน้า

นอกจากคิดว่าต้องทำอย่างไรให้หน้าที่การงานประสบความสำเร็จแล้ว เราต้องตั้งคำถามล่วงหน้าเผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมา เช่น “ถ้าฉันตัดสินใจทำเช่นนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และจะมีวิธีรับมือได้อย่างไร” การตอบคำถามเหล่านี้อาจต้องลองเปลี่ยนมุมมองจากตัวเราให้กลายเป็นบุคคลที่ 3 ซึ่งเฝ้ามองเหตุการณ์นี้อยู่ห่างๆ จึงจะมองเห็นอย่างชัดเจนว่า “ปัญหาคืออะไร” “อะไรคือช่องโหว่ของการตัดสินใจดังกล่าว” เมื่อเรามองเห็นแล้ว หากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นจริง เราจึงจะสามารถนำมาใช้แก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรัดกุมและมีสติมากขึ้น
====

4. เปลี่ยนการตำหนิให้เป็นบวก

ถ้าเกิดคนในทีมสัมผัสได้ว่าคุณกำลังจะตำหนิเขา สายตาที่พวกเขามองและนึกถึงคุณก็จะเปลี่ยนไปทันที

 

งานวิจัยพบว่าการตำหนิและการวิจารณ์จะทำให้ความบาดหมางบานปลายจนนำไปสู่การปิดตัวเองและในที่สุดก็ตัดขาดออกจากทุกสิ่งอย่างได้

การตำหนิไม่ใช่ด้านบวกแต่ก็มีวิธีที่จะทำให้มันอ่อนโยนขึ้น

เริ่มจากการพูดถึงปัญหาหรือผลลัพธ์ผ่านการสังเกตโดยใช้ภาษาที่เป็นกลางแล้วใช้ข้อเท็จจริงมาอธิบายประกอบ

จากนั้นจึงร่วมสำรวจถึงปัญหานั้นไปด้วยกัน ปิดท้ายด้วยการถามอีกฝ่ายถึงความคิดเห็นว่าจะทำให้สถานการณ์นั้นดีขึ้นได้อย่างไร โดยที่เราต้องให้บุคคลนั้นเป็นผู้คิดและเสนอทางแก้ไขเหล่านั้นด้วยตัวเอง

เพราะเขาคือผู้กุมกุญแจสำคัญที่จะไขปริศนานี้ได้
====


5. เป็นฝ่ายถามหาคำติชมกลับบ้าง

การเป็นฝ่ายถามหาคำติชมกลับไปยังเพื่อนร่วมทีม ถือเป็นวิธีหนึ่งในการพัฒนาทีมเวิร์คได้

เพราะคนในทีมจะรู้ว่าการสื่อสารระหว่างกันนั้นได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง

นอกจากนั้นจะช่วยให้ทุกคนรู้ว่าอะไรเป็นจุดบอดในการสื่อสาร เพื่อนำมาแก้ไขในอนาคต ทั้งหมดทั้งมวลจะช่วยให้เกิดความไว้วางใจในตัวผู้นำมากขึ้น

 

การจบบทสนทนาด้วยคำถามที่ว่า “อะไรที่ได้ผลและไม่ได้ผลบ้างจากการสื่อสารของเรา?”

 

, “รู้สึกอย่างไรเมื่อได้ยินข้อความนี้?”

และ “ฉันจะนำเสนอมันให้ออกมาได้ผลมากขึ้นได้อย่างไร?” อย่าเป็นฝ่ายออกคำสั่งแต่เพียงฝ่ายเดียว เราต้องเป็นฝ่ายรับ feedback บ้างเช่นกัน
====

6. หมั่นตรวจวัดระดับสุขภาพจิต

พอลมักจะถามลูกทีมเสมอว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรบ้างในการทำงาน รู้สึกดีกับการทำงานเป็นทีมหรือไม่ แล้วอะไรจะช่วยให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นได้บ้าง

โดยเขามักจะให้ทีมทำแบบสำรวจเกี่ยวกับสุขภาพจิตด้วย เพราะเขามองว่านั่นคือปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ

 


ถ้าคุณเริ่มหันมาดูแลสุขภาพจิตของตัวเองและเพื่อนร่วมทีมตั้งแต่ตอนนี้ มั่นใจได้เลยว่าศักยภาพในการทำงานเป็นทีม ความสามารถในการแก้ไขปัญหา ความสามารถเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ จะเพิ่มขึ้น และมีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
====

เรียบเรียงจากบทความ “High-Performing Teams Need Psychological Safety. Here’s How to Create It” โดย Laura Delizonna ตีพิมพ์เมื่อ 24 สิงหาคม 2017 ใน Harvard Business Review


เรียบเรียงโดย Learning Hub Thailand เราพัฒนาคนในองค์กร ให้เพิ่มศักยภาพและทำงานอย่างมีความสุข
ปรึกษาเรื่องการพัฒนาทีมในองค์กร ติดต่อ Line @lhtraining หรือ โทร 094 959 2645

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Ads, Google Analytics

    Statistics

  • Google Analytics

    Statistics

  • Facebook

    Marketing/Tracking

  • ActiveCampaign

    Functional

  • ActiveCampaign

    Marketing/Tracking

Save