สื่อสารกับเพื่อนร่วมงานขี้วีนอย่างไรไห้ได้ผล
สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ที่ทำงานเป็นสถานที่ที่น่าอยู่ ทำให้อยากตื่นขึ้นมาและกระตือรือร้นที่จะไปทำงาน ก็คือบรรยากาศในการทำงาน
ซึ่งเพื่อนร่วมงานก็คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการสร้างบรรยากาศเหล่านั้น
ข่าวร้ายก็คือเราไม่สามารถเนรมิตเพื่อนร่วมงานน่ารักๆ พูดคุยกันอย่างเข้าอกเข้าใจ รักใคร่ชอบพอเหมือนเพื่อนสนิทได้ ใครมีบุญวาสนาได้พบพานกับหัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงานที่ดีก็ย่อมสุขใจ
แต่หากเราพบเจอเข้ากับเพื่อนร่วมงานประเภท “ขี้วีนขี้เหวี่ยง” “พูดจาขวานผ่าซาก” หรือ “วาจายิ่งกว่ามีดโกนอาบน้ำผึ้ง” ที่พร้อมจะเชือดเฉือนให้เราแหว่งวิ่นทุกครั้งที่เข้าใกล้แล้วล่ะก็ที่ทำงานอันเป็นสถานที่ที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวันก็เป็นต้นเหตุของความทุกข์ใจได้ง่ายๆ
แต่อย่าเพิ่งท้อแท้ไป บทความนี้มีวิธีการดีๆ ที่จะช่วยให้คุณสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นมาฝาก ดังนี้
====
1.น้ำขุ่นอยู่ในน้ำใสอยู่นอก
ทุกคนย่อมไม่อยากพูดดีกับคนที่พูดและทำไม่ดีกับเรา แต่การทำกิริยาแบบ “แรงมาก็แรงกลับ” ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่อย่างใด แต่จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงานดิ่งลงเหวมากกว่าเดิม
หากคุณต้องการให้การสื่อสารราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรเริ่มจากตัวเราก่อน สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ละวางเรื่องขุ่นข้องหมองใจลงชั่วคราว ยิ้มกว้างๆ แล้วพูดคุยด้วยอารมณ์ที่สดใส
อย่าให้อีกฝ่ายจับได้เด็ดขาดว่าแท้ที่จริงคุณไม่อยากพูดคุยกับเขาหรือเธอคนมากเท่าไหร่ แม้ขั้นตอนนี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย แต่เป็นเรื่องที่ฝึกฝนได้แน่นอน
====
2.ปลดปล่อยความรู้สึกแย่ให้ถูกจังหวะ
อึดอัดใช่ไหมกับการต้องฝืนทำดีกับคนที่มีนิสัยขี้วีนขี้เหวี่ยง การปลดปล่อยความรู้สึกด้านลบออกมาเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสถานการณ์เช่นนี้ เพราะจะทำให้คุณมีสภาวะจิตใจที่ดีขึ้นได้
แต่การระบายความรู้สึกออกมานั้นควรเลือกทำให้ถูกที่ ถูกคน และถูกจังหวะ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่เลวร้ายตามมา
ให้มองหาเพื่อนที่คุณไว้วางใจได้สักคน จะเป็นเพื่อนที่คุณสนิทสนมมานานที่คุณสามารถระบายความในใจให้เขาฟังได้อย่างไม่เคอะเขิน และตัวเขาต้องมีทัศนคติที่ดีมากพอที่จะมองโลกด้วยใจเป็นกลาง เพื่อที่เขาจะได้ช่วยมองในมุมของคนนอกและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อคุณในสถานการณ์ที่เลวร้ายได้
====
3.เปลี่ยนมุมมองใหม่ เข้าใจมากขึ้น
การมองจากมุมมองของคุณเพียงมุมเดียวไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ลองเปลี่ยนไปมองจากมุมมองของอีกฝ่ายหนึ่งว่า “เกิดอะไรขึ้นในชีวิตเขากันนะ จึงทำให้เขาเป็นคนแบบที่เป็นอยู่นี้ “
วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณเริ่มเข้าใจว่านิสัยวีนเหวี่ยงที่เพื่อนร่วมงานของคุณเป็น เกิดจากสภาพกดดันจากปัญหาครอบครัว ปัญหาทางการเงิน หรือแม้กระทั่งปัญหาสุขภาพที่เขาประสบอยู่ จนทำให้เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ขี้วีนขี้เหวี่ยงของเขาได้
เมื่อเข้าใจปัญหาจากมุมมองของเขาแล้วจะทำให้คุณเกิดความเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมงานได้มากขึ้น เมื่อใดที่เขาทำนิสัยไม่น่ารักเหล่านั้น คุณก็เพียงคิดเสียว่า “โลกช่างโหดร้ายกับเขาเสียเหลือเกิน” แล้วคุณจะเริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเขาขึ้นมา
การเปลี่ยนมุมมองคือทักษะที่คุณฝึกฝนได้ โดยต้องมีวิธีฝึก Self – Awareness แบบ Step by Step ควบคู่ไปด้วย คลิกอ่านบทความที่นี่
====
4.สร้างมิตรด้วยกิจกรรม
เมื่อคุณได้เรียนรู้และเปิดใจยอมรับ “นิสัยไม่น่ารัก” ของเพื่อนร่วมงานได้บ้างแล้ว ขั้นตอนถัดมาซึ่งอาจจะยากขึ้นมาอีกหน่อยก็คือ ให้หาโอกาสพูดคุยสร้างความสนิทสนมกับเขาให้มากขึ้น
หรือหากเป็นไปได้ให้ชวนเขาไปทำกิจกรรมหลังเลิกงานร่วมกัน เลือกกิจกรรมที่คุณสองคนชอบหมือนๆ กัน เช่น การหาของกินอร่อยๆ ดูหนังด้วยกันสักเรื่อง หรือเข้าฟิตเนสด้วยกัน
เมื่อมีโอกาสทำกิจกรรมนอกเหนือจากการทำงานร่วมกัน จะทำให้คุณสองคนรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกดีต่อกันมากขึ้น เทคนิคนี้จะทำให้การสื่อสารระหว่างทั้งสองเป็นไปได้ด้วยดีมากขึ้นเมื่อต้องทำงานร่วมกันในโอกาสต่อไป เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคการสร้างมิตรด้วยกิจกรรม นั่นเอง
====
5.อยู่ห่างๆ หากยังไม่พร้อม
เทคนิคต่างๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น อาจทำให้ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานบางคนดีขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว แต่มันก็ย่อมมีเหมือนกันที่สำหรับ “คนบางคน” จะยังไม่พบความเปลี่ยนแปลงแม้ว่าเราจะลองครบทุกวิธีแล้วก็ตาม
หากเป็นแบบนั้นก็คงต้องใช้เทคนิคข้อสุดท้ายก็คือ “อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ” กล่าวคือ เมื่อยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งเกิดการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน เกิดรอยร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงการติดต่อกันไปก่อน ระหว่างนี้ใช้วิธีการสื่อสารผ่านคนกลางที่พูดคุยได้ทั้งสองฝ่าย หรือพยายามติดต่อกันเฉพาะเรื่องที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น จนกว่าเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์กับคุณแล้ว
การเปลี่ยนแปลงบุคคลอื่นให้เป็นไปอย่างที่เราต้องการนั้นทำได้ยาก เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงหรือไม่ก็คือตัวของเขาเอง สำหรับตัวคุณเองก็เช่นเดียวกัน คุณสามารถเลือกที่จะ “รู้สึกมีความสุข” ได้ แม้ว่าจะมีเพื่อนร่วมงานขี้วีนขี้เหวี่ยงอยู่ใกล้ๆ ในทุกวันก็ตาม
====
คุณสามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานขี้วีนให้ดีขึ้นได้ด้วยการฝึกทักษะการสื่อสารเชิงรุก การโน้มน้าวใจ ในหลักสูตร Persuasion and Negotiation Mastery ดูรายละเอียดคลิกที่นี่
Learning Hub Thailand – เราพัฒนาคนในองค์กร ให้เพิ่มศักยภาพและทำงานอย่างมีความสุข
Recent Posts
- 3 กติกาง่าย ๆ ที่ทำให้ทุกฝ่ายมีความสุขในการประชุม
- 5 เคล็ดลับ เปลี่ยนคนเบื่องาน ทะยานสู่ TOP 5 ในออฟฟิศ
- 5 เคล็ดลับ เปลี่ยนวันจันทร์ ให้เป็นวันสุข
- 5 วิธีสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานเจ้าอารมณ์
- 7 ขั้นตอนทำงานร่วมกับเจ้านายดุให้มีประสิทธิภาพและมีความสุข
- วิธีทำชีวิตช้าลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
- 5 เทคนิครับมือกับเพื่อนร่วมงานเจ้าปัญหา
- 7 เทคนิค เลือกลูกน้องอย่างไรไม่ให้เปลี่ยนงานบ่อย
- 4 ขั้นตอน ลดความขัดแย้งภายในทีม
- 8 วิธีสร้างความน่าเชื่อถือในที่ทำงาน