5 วิธีสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานเจ้าอารมณ์

เป็นความจริงที่ว่ามนุษย์ออฟฟิศอย่างเราสามารถเลือกบริษัทใหญ่โตที่ดูมั่นคงเพื่อไปทำงานด้วยได้ เราเลือกโลเคชั่นหรือสถานที่ทำงานที่สะดวกในการเดินทางได้ แต่เราแทบจะไม่สามารถเลือกเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้าได้เลย

เพื่อนร่วมงานดีและหัวหน้างานน่ารักย่อมทำให้ชีวิตการทำงานของเรามีความสุข แต่ถ้าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ต้องติดต่อประสานงานกับเพื่อนร่วมงานที่ไม่มีเหตุผล นิสัยเสีย เจ้าอารมณ์นั่นหมายความว่า ชีวิตการทำงานของเราก็คงไม่เป็นสุข ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่องาน และประสิทธิภาพในการทำงานด้วย

=====

จากประสบการณ์ในการทำงานอบรมและโค้ชผู้บริหารมานานหลายปี เราได้ถอดบทเรียนเทคนิควิธีการในการรับมือและสื่อสารกับ “เพื่อนร่วมงานนิสัยไม่น่ารัก” เหล่านั้นมาให้คุณแล้ว 


1. ปรับอารมณ์ก่อนพูดคุยกับพวกเขา

สิ่งแรกที่เราอยากบอกกับคุณก็คือ … เรารู้ว่าคุณโดนอะไรมา แต่ถ้าคุณกำลังรู้สึกแย่กับคำพูด หรือการกระทำของเขา จงอย่าตอบโต้ตามอารมณ์คุกรุ่นที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้วยถ้อยคำรุนแรงหรือท่าทางที่ไม่พอใจ  เพราะมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ทั้งยังจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอีกด้วย  

การใช้อารมณ์  “เหวี่ยงร่วม(เขาแรงมาเราแรงตอบ)” นอกจากจะทำให้ตัวเราดูแย่ ยังทำให้บรรยากาศแย่ตามไปด้วย ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ และภาพลักษณ์ที่คนในองค์กรมองมาที่คุณ

จงสูดหายใจเข้าลึกๆ ควบคุมสติ ประคองอารมณ์ ทำตัวสวยๆ พูดคุยกันด้วยเหตุผล  มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ขอเพียงเริ่มจากความคิดในใจของคุณเองว่า

“ฉันทำได้… ฉันรับมือได้… ”

=====

2. พูดคุยกับคนอื่น เพื่อระบายความรู้สึกแย่ๆ ออกมา

คุณอาจจะเพิ่งโดนเหวี่ยงมา ทั้งที่คุณไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนเลย… เวลานี้ คุณอาจต้องการคนคุยด้วย เพื่อระบายความอึดอัด และเพื่อให้คุณรู้สึกแย่น้อยลง

ลองแชร์เรื่องราวของคุณกับเพื่อนหรือคนที่ไว้ใจ เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่เสริมอคติส่วนตัว ถ้าเป็นไปได้อย่าเพิ่งด่วนตัดสินผิด-ถูก ลองฟังความคิดเห็นจากคนที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้นเพื่อให้คุณมองเห็นภาพที่กว้างขึ้น

บ่อยครั้ง คนเหล่านั้นก็จะมีความคิดดีๆ ให้เราฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เพราะพวกเขามองสิ่งที่เกิดขึ้นจากมุมมองของคนนอก ทำให้สามารถมองด้วยเหตุผล และไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินได้

แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของพวกเขาทั้งหมด เพราะการที่คุณได้ระบายสิ่งที่อึดอัดโดยมีคนรับฟังอย่างพินิจพิเคราะห์และเป็นกลาง เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้อารมณ์ของคุณดีขึ้นได้แล้ว

=====

3. เปลี่ยนมุมมองในใจโดยการทดลองคิดด้วยมุมของเขาดู

การเปลี่ยนมุมมอง แล้วย้อนคิดว่า “เขาพบเจออะไรมาหรือเติบโตมาอย่างไรถึงได้มีบุคลิกนิสัยอย่างนี้” จะทำให้คุณเห็นภาพว่าเพื่อนร่วมงานเจ้าอารมณ์อาจได้รับแรงกดดันมหาศาล จากที่บ้าน ที่ทำงาน

หรือเขาอาจเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ มีปมด้อยในชีวิต เหตุการณ์ต่าง ๆ บ่มเพาะให้เขาคิดไปว่า “การเหวี่ยงวีน หรือทำตัวเจ้าอารมณ์ใส่คนอื่น เป็นสิ่งที่ใช้เอาตัวรอดได้และใครๆ ก็ทำกัน”

เมื่อคุณวิเคราะห์พื้นฐานครอบครัว วิเคราะห์ที่มาของความคิดความเชื่อของพวกเขาจะช่วยทำให้คุณเข้าอกเข้าใจตัวเขามากขึ้น เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม แสดงออกไม่น่ารัก คุณก็จะรู้สึกแย่น้อยลง แถมยังยิ้มในใจว่า “ก็เขาเคยโดนอย่างนั้นมา เขาเลยเป็นคนแบบนี้แหละ”

หนึ่งลักษณะของคนที่ทำงานด้วยยากมากก็คือ คนที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ อ่าน แนวทางการทำงานร่วมกับคนที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ คลิกที่นี่

=====

4.  หาเวลาพูดคุยกันด้วยความผ่อนคลาย

เมื่อคุณเริ่มเข้าอกเข้าใจ โดยรู้ที่มาที่ไปของบุคลิกนิสัยไม่น่ารักของเขาแล้ว คุณอาจหาเวลาพูดคุย หรือทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับงาน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องเกี่ยวกับเรื่องงานเท่านั้น เช่น การตีแบตหลังเลิกงาน ไปกินข้าว กันเป็นกลุ่ม หรือทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน

เมื่อเรามีความสัมพันธ์ที่ดีซึ่งอยู่นอกเหนือหน้าที่การงาน จะทำให้เขากับเราผ่อนคลายต่อกันมากขึ้น  และเมื่อคุณสนิทกับเขามากขึ้น คุณอาจหาจังหวะพูดคุยแบบเปิดอก ว่าคุณรู้สึกอย่างไร? พร้อมทั้งอธิบายสิ่งที่เขาแสดงออกว่ามันส่งผลกระทบเชิงลบอย่างไร?

วิธีนี้คือ “การเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร” นั่นเอง

=====

5. ไว้คุยกันเมื่อพร้อมและสบายใจ แต่ตอนนี้ ขออยู่ห่างๆ กันก่อนนะ

สำหรับ “บางคน” ถ้าคุณได้ลองทุกวิธีข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนมุมมองหรือทัศนคติที่มีต่อพวกเขา ทำดีด้วยก็แล้ว พูดคุยด้วยความเข้าอกเข้าใจก็แล้ว เปิดโอกาสให้ตัวเองและเพื่อนร่วมงานพัฒนาความสัมพันธ์อันดีก็แล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น

สุดท้าย คุณอาจจำเป็นต้องตัดเขาออกจากการพบปะพูดคุย โดยการอยู่ห่างจากเขา หลีกเลี่ยงการทำงานร่วมกันเท่าที่สามารถทำได้ไปก่อน  เพราะเขาคงยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง 

การเปลี่ยนนิสัย-ความคิด-ความเชื่อของคนบางคนเป็นสิ่งที่ยากมาก แต่สิ่งที่ง่ายกว่า(และควรทำมากกว่า)ก็คือการควบคุมปัจจัยภายในของตัวเราเอง

อย่าให้คนชอบวีน คนขี้เหวี่ยง คนนิสัยไม่น่ารัก และคนแสดงพฤติกรรมแย่ๆ มาทำลายการทำงานทั้งหมดของคุณ หรือส่งผลให้คุณเป็นทุกข์อีกต่อไปเลย 

ถ้าคุณสนใจเรียนรู้และฝึกฝนพัฒนาทักษะการบริหารจัดการอารมณ์ของคนทำงานยุคใหม่ขอแนะนำหลักสูตร   Emotion Intelligence  เพื่อพัฒนาให้คุณมีทักษะความสามารถที่จะบริหารจัดการอารมณ์เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ  คลิกดูรายละเอียด ที่นี่

=====

เรียบเรียงโดย

Learning Hub Thailand – เราพัฒนาคนในองค์กร ให้เพิ่มศักยภาพและทำงานอย่างมีความสุข

ปรึกษาเรื่องการพัฒนาทีมในองค์กรฟรี  ติดต่อ Line @lhtraining หรือ โทร 0939254962

 

5 วิธีสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานจอมเหวี่ยง

เป็นความจริงที่ว่า… มนุษย์ออฟฟิศอย่างเราๆ สามารถเลือกบริษัทใหญ่โตดูมั่นคงที่อยากทำงานด้วยได้ เลือกโลเคชั่นพิกัดสถานที่ทำงานเพื่อความสะดวกในการเดินทางได้ แต่เรากลับ “ไม่สามารถ” รู้ได้เลยว่า จะเจอเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้า แบบใด!!!

เพื่อนร่วมงานดี หัวหน้างานน่ารัก ย่อมทำให้ชีวิตการทำงานของเรามีความสุข แต่ถ้าประจวบเหมาะเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ต้องติดต่อประสานงานกับเพื่อนร่วมงานไม่มีเหตุผล นิสัยแอบแย่ จอมเหวี่ยง ขี้อิจฉา นั่นหมายถึงว่า ชีวิตการทำงานของเราคงไม่เป็นสุข และส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลงาน หรือประสิทธิภาพการทำงาน

บทความนี้ เรามีไอเดียดีๆ ให้คุณเก็บไว้ใช้สื่อสาร-รับมือ กับ “เพื่อนร่วมงานนิสัยไม่น่ารัก” เหล่านั้น


1. ปรับอารมณ์ก่อนพูดคุยกับพวกเขา

แรกสุดเลย อยากบอกว่า… เรารู้นะว่าคุณโดนอะไรมา!!! แต่ถ้าคุณกำลังรู้สึกแย่กับคำพูด หรือการกระทำของเพื่อนร่วมงาน อย่าตอบโต้ตามอารมณ์คุกรุ่นด้วยถ้อยคำรุนแรง ทั้งด้วยคำพูดและท่าทาง เพราะนั่นไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ทั้งยังจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ เลวร้ายลง

การใช้อารมณ์ “เหวี่ยงร่วม” นอกจากจะทำให้คุณดูแย่ ยังทำให้บรรยากาศโดยรอบ แย่ตามไปด้วย ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ และภาพลักษณ์ของตัวคุณเองในองค์กร… สูดหายใจเข้าลึกๆ ควบคุมสติ ประคองอารมณ์ ทำตัวสวยๆ พูดคุยกันด้วยเหตุผล… มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำหรอกนะ เราเข้าใจคุณ… แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากหรอก ขอเพียงเริ่มจากความคิดในใจว่า “ฉันทำได้… ฉันรับมือได้… ”

 

2. พูดคุยกับคนอื่น ระบายความรู้สึกแย่ๆ ออกมา

โอเค… คุณเพิ่งโดนเหวี่ยงมา ทั้งที่คุณไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนเลยนะ… จังหวะนี้ คุณอาจต้องการคนคุยด้วย เพื่อระบายความอึดอัด และเพื่อให้คุณรู้สึกแย่น้อยลง แชร์เรื่องราวของคุณกับเพื่อนหรือคนรู้ใจ เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่เสริมเติมอารมณ์ส่วนตัว อย่าด่วนตัดสินผิด-ถูก ลองฟังคำพูด-ความเห็นจากคนที่ไม่ได้อยู่ร่วมสถานการณ์ด้วย

บ่อยครั้ง พวกเขาจะมีไอเดียดีๆ ให้เราฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เพราะพวกเขามองสิ่งที่เกิดขึ้นจากมุมคนนอก ด้วยเหตุด้วยผล และไม่ได้ใช้อารมณ์ในการตัดสิน… แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของพวกเขาหรอกนะ เพราะการที่คุณได้ระบายสิ่งที่คุณอึดอัด ฟังอย่างพินิจพิเคราะห์และเป็นกลาง เพียงแค่นี้ก็น่าจะช่วยให้อารมณ์คุณดีขึ้นมากแล้ว

 

3. เปลี่ยนมุมมองในใจ ลองคิดด้วยมุมของพวกเขา

การเปลี่ยนมุมมอง แล้วย้อนคิดดูว่า “พวกเขาโดนอะไรมานะ?” อาจทำให้คุณเห็นภาพเพื่อนร่วมงานจอมเหวี่ยง ว่าพวกเขาอาจได้รับแรงกดดันมหาศาล จากทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน หรือเติบโตมาในครอบครัวไม่สมบูรณ์ มีปมด้อยในชีวิต บ่มเพาะให้คิดไปว่า “การเหวี่ยงวีน การทำตัวเหนือคนอื่น เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำกัน และจะให้ผลลัพธ์ที่ดี”

เมื่อคุณรู้จักพื้นฐานครอบครัว ที่มาความคิดของพวกเขา ย่อมทำให้คุณเข้าอกเข้าใจนิสัยพื้นเพ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม สื่อสารไม่น่ารัก คุณจะรู้สึกแย่น้อยลง แถมยังยิ้มในใจว่า “ก็เขาเคยโดนอย่างนั้นมา.. เขาเลยเป็นคนแบบนี้แหละ.. ฉันเข้าใจคุณนะ”

 

4.  หาเวลาพูดคุยกันด้วยความผ่อนคลาย

เมื่อคุณเริ่มเข้าอกเข้าใจ รู้ที่มาที่ไปของบุคลิกนิสัยไม่น่ารักของเพื่อนร่วมงานคุณแล้ว คุณอาจหาเวลาพูดคุย หรือทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับงาน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ผ่อนคลาย-ไม่จริงจัง เช่น การตีแบตหลังเลิกงาน ไปกินข้าว หรือทำกิจกรรมบันเทิงสนุกๆ ร่วมกัน

เมื่อมีความสัมพันธ์ที่ดีนอกเหนือหน้าที่การงาน จะทำให้พวกเขาผ่อนคลาย และเมื่อคุณสนิทกับพวกเขามากขึ้น คุณอาจหาจังหวะโอกาสพูดคุยกันแบบเปิดอก ว่าคุณรู้สึกอย่างไร? พร้อมทั้งอธิบายสิ่งที่พวกเขาแสดงออกมานั้น ว่าไม่น่ารักอย่างไร? วิธีนี้คือ “การเปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร” นั่นเอง!

 

5. ไว้คุยกันเมื่อพร้อมและสบายใจ แต่ตอนนี้ ขออยู่ห่างๆ ก่อนนะ

สำหรับ “บางคน” ถ้าคุณได้ลองทุกวิธีข้างต้น… ทั้งปรับเปลี่ยนมุมมองทัศนคติต่อพวกเขา ทำดีด้วยก็แล้ว พูดคุยด้วยความเข้าอกเข้าใจก็แล้ว คุณได้เปิดโอกาสให้ตัวเองและเพื่อนร่วมงาน ในการพัฒนาความสัมพันธ์อันดี แต่สถานการณ์กลับยังไม่ดีขึ้น… สุดท้าย คุณอาจจำเป็นต้องตัดพวกเขาออกจากการพบปะพูดคุย ด้วยการอยู่ห่างจากพวกเขา หลีกเลี่ยงการต้องทำงานร่วมกันในช่วงเวลานี้ เพราะเขาคงยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง!

เพราะการเปลี่ยนนิสัย-ความคิด-ความเชื่อของบางคนอาจเป็นสิ่งยาก แต่สิ่งที่ง่ายที่สุดคือการควบคุมปัจจัยภายในตัวคุณเอง… อย่าให้คนชอบวีน ขี้เหวี่ยง นิสัยไม่น่ารัก แสดงพฤติกรรมแย่ๆ มาทำลายวันทำงานของคุณ หรือส่งผลให้คุณรู้สึกเป็นทุกข์…

คุณควรมีความสุขกับงานที่ทำ… อย่าใส่ใจหรือให้คุณค่ากับคนไม่น่ารักเหล่านั้นเลย! 

 

 

บทความโดย LEARNING HUB TEAM

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Ads, Google Analytics

    Statistics

  • Google Analytics

    Statistics

  • Facebook

    Marketing/Tracking

  • ActiveCampaign

    Functional

  • ActiveCampaign

    Marketing/Tracking

Save