ในแต่ละวันคุณต้องเผชิญกับปัญหามากมายใช่ไหมคะ ไหนจะเรื่องงาน เงิน สุขภาพ เพื่อนฝูง หรือเรื่องส่วนตัว อุปสรรคเหล่านี้ทำให้คุณเครียด ท้อแท้ วิตกกังวล และหมดกำลังใจ
แต่ยังไงชีวิตก็ต้องก้าวต่อไปข้างหน้าค่ะ จะมัวก้มหน้ายอมรับชะตากรรม หรือวิ่งหนีปัญหาตลอดไปก็คงไม่ได้
แต่หากคุณยังรู้สึกหดหู่ เหนื่อยล้า และไม่รู้ว่าจะสู้ต่อไปอย่างไรไหว วันนี้ Learning Hub มีตัวช่วยดีๆมาฝากค่ะ
รับรองว่า 5 คำคมของคนดังในบทความนี้จะช่วยปลุกพลัง ปรับความคิด และจุดไฟในตัวคุณให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง แล้วคุณจะสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ไม่ยากค่ะ
“วันนี้อาจโหดร้าย พรุ่งนี้ก็อาจโหดร้ายยิ่งกว่า
แต่เชื่อเถอะว่า วันมะรืนจะเป็นวันที่สวยงาม”
(แจ็ค หม่า)
เวลาเจอปัญหาคนเรามักคิดต่างกัน คนที่มองโลกในแง่ดีจะคิดบวก แม้ว่าจะยังมองไม่เห็นทางออกเลยก็ตาม ส่วนคนที่มองโลกในแง่ร้ายจะท้อแท้ สิ้นหวังและล้มเลิกความตั้งใจไปง่ายๆ ค่ะ
สิ่งนี้คือคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวได้ค่ะ คุณรู้ไหมคะว่ามันคืออะไร ใช่แล้วค่ะ
สิ่งนี้คือ “ทัศนคติ” คนที่ประสบความสำเร็จเป็นคนที่มีหัวใจยิ่งใหญ่ พวกเขามักคิดว่าเป้าหมายที่สร้างไว้ไม่ใช่ความฝันลมๆ แล้งๆ และไม่ว่าจะเจออุปสรรคหนักหนาแค่ไหน พวกเขาจะสู้ไม่ถอย ด้วยความหวังว่าสักวันความฝันนั้นจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาค่ะ
ดังนั้น มุมมองและทัศนคติที่สวยงามจึงเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่นำคุณไปสู่ความสำเร็จค่ะ แม้ว่ามันจะสิ่งเล็กน้อย
แต่ก็ทำให้เกิดสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เพราะเมื่อคุณมีแผนที่หรือเข็มทิศชีวิตที่ดีแล้ว คุณจะสามารถสานฝันและประสบความสำเร็จได้ไม่ยากค่ะ
“การเป็นอัจฉริยะประกอบด้วยแรงบันดาลใจ 1% และหยาดเหงื่ออีก 99%”
(โทมัส อัลวา เอดิสัน)
คุณคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นคนโชคดีหรือมีพรสวรรค์หรือเปล่าคะ ถ้าคุณคิดเช่นนั้นคุณกำลังคิดผิด และไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคุณยังย่ำอยู่กับที่
เพราะแท้จริงแล้วคุณสมบัติที่คนประสบความสำเร็จมีเหมือนกัน คือ “ความพยายาม” ค่ะ ถ้าไม่เชื่อคุณก็ลองไปอ่านชีวประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จอย่าง J.K. Rowling, Walter Elias Disney, Steve Jobs และคนอื่นๆ ดูสิคะ
แล้วคุณจะพบว่ากว่าที่พวกเขาจะพบกับความสำเร็จอันหอมหวาน ชีวิตล้วนต้องผ่านอุปสรรคอันขมขื่นมาแล้วทั้งสิ้น
ดังนั้น จงท่องจำให้ขึ้นใจว่า “ความสำเร็จไม่มีสูตรสำเร็จ” ค่ะ หากคุณต้องการได้มา คุณต้องทุ่มเททำงานอย่างหนัก
และอย่าปล่อยให้อุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ มาบั่นทอนความฝันอันยิ่งใหญ่ของคุณนะคะ แต่จงใช้มันเป็นเครื่องมือที่ทำให้คุณแข็งแกร่ง และพัฒนาไปมากกว่าเดิมค่ะ
เชื่อว่าถ้าคุณพยายามมากพอ ประตูแห่งชัยชนะก็จะเปิดรับคุณค่ะ
“ความรักในงานที่ทำ สร้างงานที่สมบูรณ์แบบ”
(อริสโตเติล)
จงเลือกทำงานที่คุณรัก แล้วเงินกับความสุขจะตามมาเองค่ะ แต่หากคุณเลือกไม่ได้ลองคิดถึงข้อดีของงานที่ทำ
เช่น เจ้านายดี ลูกน้องน่ารัก เงินเดือนสูง ใกล้บ้าน เลื่อนตำแหน่งเร็ว เป็นต้น เมื่อคุณมองเห็นข้อดีของงานแล้ว คุณก็จะรักงานนั้น ได้ไม่ยากค่ะ
อย่าลืมนะคะ ทำในสิ่งที่รัก รักในสิ่งที่ทำ คุณจะพบกับความสำเร็จค่ะ
“ใช้ชีวิตราวกับว่าคุณจะตายพรุ่งนี้ เรียนรู้ราวกับว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป”
(มหาตมะ คานธี)
หากพรุ่งนี้คุณต้องตาย คุณอยากทำอะไรบ้างคะ เชื่อว่าคุณคงมีรายการที่อยากทำยาวเป็นหางว่าวเลย แล้วตอนนี้คุณรออะไรอยู่คะ ในเมื่อคุณยังมีแรง มีเวลา และมีลมหายใจ ดังนั้น อย่าปล่อยให้สิ่งที่มีค่าเหล่านี้หมดไป โดยที่คุณไม่ทำอะไรเลย
ลองคิดดูสิคะว่า คุณอยากทำอะไรบ้าง เช่น ท่องเที่ยว ทานอาหารอร่อยๆ เรียนภาษาเพิ่มเติม ทำงานในฝัน สร้างธุรกิจ
หรือเป็นคนที่มีความสุขในโลก เมื่อความคิดเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ก็จงลงมือทำ และคุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังค่ะ
ทั้งนี้ การใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่านั้น ต้องประกอบด้วยความรู้ เพราะหากคุณบ้าระห่ำ ทำตามอำเภอใจ โดยไม่ศึกษาหาข้อมูลในสิ่งต่างๆ ให้ดีก่อน ก็จะเกิดผลเสียตามมาอย่างมากมาย
ดังนั้น ความรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ และมีอิทธิพลมากต่อการดำรงชีวิต ความรู้ทำให้คุณกล้า มั่นใจ และทำสิ่งต่างๆ ได้สำเร็จค่ะ ยิ่งคุณมีความรู้มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งทำประโยชน์ให้ตนเองและผู้อื่นมากเท่านั้นค่ะ เมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าหยุดที่จะพัฒนาตนเองนะคะ
“คนที่ไม่เคยทำผิด คือ คนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย”
(ที รุสเวลต์)
ทุกวันนี้คุณใช้ชีวิตแบบไหนคะ “กลัวการเปลี่ยนแปลง แขยงการเริ่มต้น หนีไม่พ้นความล้มเหลว” หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ แต่หากคุณใช้ชีวิตแบบนี้ จงรีบเปลี่ยนก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปค่ะ
ถ้าคุณมัวแต่กลัว หรือกังวลไม่กล้าทำสิ่งใหม่ คุณก็จะไม่มีวันรู้เลยว่าตนเองมีศักยภาพมากแค่ไหน และแน่นอนว่าคุณจะไม่มีวันพบกับคำว่า “ความสำเร็จ” ค่ะ
หลายคนไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวความผิดพลาด แต่คนที่ไม่เคยทำอะไรต่างหาก คือ คนที่ล้มเหลวที่สุดค่ะ ดังนั้น อย่าทำลายความฝันของตัวเองด้วยความผิดพลาดเพียงไม่กี่ครั้ง เพราะจริงๆ แล้ว…
– “ความล้มเหลว” ทำให้คนเราฉลาดขึ้น
– “ความล้มเหลว” สามารถแยกคนที่อ่อนแอออกจากคนที่แข็งแกร่งได้
– “ความล้มเหลว” เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยของคนที่ประสบความสำเร็จ
เมื่อคุณรู้เช่นนี้แล้ว ก็อย่ากลัวอีกเลยค่ะ จงคิดว่าทุกโอกาส คือ การได้เปิดตัวเองสู่การเรียนรู้ใหม่ ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ ทีนี้พร้อมลุยหรือยังคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ หวังว่าคุณคงมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง และพร้อมรับมือกับปัญหาที่คอยรุมเร้านะคะ แต่ที่เหนือไปกว่ากำลังใจ คือ ความพยายามค่ะ
คำพูดสวยหรูของคนดังไม่อาจช่วยคุณได้ ถ้าคุณไม่ลงมือทำเองค่ะ ยังไง Learning Hub ก็ขอเอาใจช่วยให้ทุกคนประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ค่ะ
