‘ต้นทุนจม’ อคติความคิดที่ทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาด

คุณไปทำอย่างอื่นก่อนก็ได้นะครับ แล้วปล่อยบทความนี้ผ่านไป แต่ผมคิดว่าคุณอาจจะเสียใจในภายหลัง

ผมมีเรื่องของ ‘แดเนียล คานีแมน’ นักจิตวิทยาชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอลเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ปี ค.ศ. 2002 มาเล่าให้ฟัง

คานีแมนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม (Behavioral Economics) และการตัดสินใจ (Decision Making) เจ้าของหนังสือชื่อดังอย่าง Thinking Fast and Slow ที่หลายท่านอาจจะเคยได้ยิน

===

คานีแมนบอกเราว่า “เมื่อมีเรื่องให้ตัดสินใจ สมองของคนเรามีการทำงาน 2 ระบบ ระบบแรก เป็นระบบที่รวดเร็ว ตอบสนองตามสัญชาติญานและอารมณ์ ส่วนระบบที่สองเป็นระบบที่ช้า ตอบสนองโดยใช้เหตุผล”

ระบบแรกใช้พลังงานน้อยกว่าระบบที่สองมาก ซึ่งปกติแล้วมนุษย์เรามักจะใช้ระบบแรกในการดำเนินชีวิตประจำวัน

ฟังเผินๆ ก็น่าจะดีที่เราใช้พลังงานน้อยเพราะสมองเป็นอวัยวะที่กินพลังงานสูงมากเมื่อเทียบกับขนาดของมัน แต่ข้อเสียของการใช้ระบบแรกในการคิดก็คือมันมักทำให้เราตัดสินใจผิด!

===

การตัดสินใจผิดเกิดจากการที่เราทำตามอารมณ์ (การใช้ระบบแรก) โดยขาดเหตุผล (การใช้ระบบที่สอง) ปรากฏการณ์เช่นนี้มีชื่อเรียกว่า ‘อคติทางความคิด’ (Cognitive Bias) นั่นเอง

อคติทางความคิดเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 2020 นี้เป็นต้นมา จาก Influencer สายพัฒนาตัวเองหลายท่าน วันนี้ผมจะยกตัวอย่างให้ดูสัก 2 อคติทางความคิดเพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้น

===

เรื่องแรก ลองนึกภาพตัวคุณซื้อตั๋วดูฟุตบอลคู่หยุดโลก (จริงๆ โลกก็ยังหมุนแหละ แต่ผมพูดให้ดูยิ่งใหญ่) Manchester United ปะทะ Liverpool ที่จะแข่งที่ประเทศไทยกลางปี 2565 ที่จะถึงนี้

ปรากฎว่าในวันที่ฟุตบอลคู่นี้แข่งขันคุณเกิดท้องเสียอย่างหนักในตอนเช้า ในใจลึก ๆ คุณอยากนอนอยู่บ้าน หรือไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือด้วยซ้ำ แต่กลับเกิดความคิดในหัวของคุณว่า ‘เสียค่าตั๋วไปแล้วราคาแพงมากด้วย’ คุณเลยพยายามที่จะลากสังขารตัวเองไปให้ได้ แม้จะต้องใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ไปด้วยคุณก็ยอม

ถ้าคุณตัดสินใจจะเลือกทางนี้ด้วยเหตุผลนี้ นั่นแปลว่าคุณกำลังเกิดอคติทางความคิดแล้วครับ

===

อคติทางความคิดรูปแบบนี้คือ Sunk-Cost Fallacy ครับ หรือปรากฎการณ์ที่เราเอาต้นทุนจมซึ่งเป็นสิ่งที่เรียกคืนไม่ได้แล้วมาใช้ประกอบการตัดสินใจ ถ้าคุณสามารถเอาบัตรไปคืนผู้จัดได้โดยบอกว่าคุณท้องเสีย ขอเงินคืนเต็มจำนวน หรือบางส่วนได้ แบบนี้จะไม่เรียกต้นทุนจม แต่ถ้าคุณทำเช่นนั้นไม่ได้ค่าตั๋วนี้ก็คือต้นทุนจมครับ

ในทางกลับกันถ้าอาการของคุณไม่ได้รุนแรงมากนัก แล้วคุณตัดสินใจโดยมองว่าการไปดูจะได้ความสุขและสนุกมากกว่าการนอนเฉยๆ แบบนี้เป็นเหตุผลที่พอจะฟังขึ้นอยู่บ้าง หรือสุดท้ายแล้วคุณป่วยหนักจริงๆ แล้วคุณเลือกที่จะไม่ไปโดยขายตั๋วให้คนที่อยากดู (ผมคิดว่ามีเยอะ) ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยครับ

===

Sunk-Cost Fallacy เกิดขึ้นได้แม้ในเรื่องของความสัมพันธ์ สามี-ภรรยาบางคู่อยู่กันมานาน คบกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม อยู่ด้วยกันมาหลายสิบปี มีลูกด้วยกัน พอถึงวันนึงความรู้สึกที่มีต่อกันไม่เหมือนเดิมแต่ก็ไม่ยอมพูดคุยกันเพื่อตัดสินใจว่าจะอยู่ด้วยกันต่อไป หรือจะแยกทางจากกัน เพราะต่างคิดว่าคบกันมานานขนาดนี้แล้วก็ควรจะคบต่อไป

ถ้าคิดแบบนี้เรียกว่าเอาต้นทุนจมมาคิด (การคบกันมานานในอดีต) หรือ เจอ Sunk-Cost Fallacy อีกแล้วครับ

แต่ถ้าพิจารณาว่าจะอยู่ด้วยกัน เพราะมองว่าการแยกกันจะเกิดผลเสียต่อลูก ต่อตนเอง ตลอดจนทั้งคู่พูดคุยกันว่าสามารถปรับตัวเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ในอนาคต โดยต่อยอดจากการที่เคยรู้จักกันในอดีตและปัจจุบัน แบบนี้เรียกว่าตัดสินใจด้วยเหตุผล ไม่ถือว่าติดกับดัก Sunk-Cost Fallacy

===

สรุปสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากบทความนี้ทั้งหมด 5 เรื่อง ดังนี้

  1. สมองมีการทำงานสองระบบ แบบเร็ว และแบบช้า
  1. เราสามารถเกิดอคติทางความคิดได้ง่ายมาก เมื่อใช้ระบบแบบเร็วมาใช้ในการตัดสินใจ
  1. รู้จัก Sunk-Cost Fallacy หรือต้นทุนจมที่เรามักเอามาใช้ในการตัดสินใจด้วย
  1. อคติทางความคิดอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้จากการตัดสินใจที่เหมือนกัน (เช่น ไปดูฟุตบอลแม้ป่วย) ขึ้นกับเหตุผลในการตัดสินใจในเรื่องนั้นด้วย (ถ้าเอาต้นทุนจมมาเป็นปัจจัยคุณกำลังติดอคติทางความคิดแล้ว)
  1. ขอให้กลับไปพิจารณาบทความนี้ในช่วงต้นอีกครั้ง ผมบอกว่าจะแนะนำให้รู้จักอคติทางความคิด 2 อย่างใช่ไหมครับ สังเกตเห็นไหมครับว่าใกล้จะจบบทความอยู่แล้วแต่ผมพูดถึงแค่ Sunk-Cost Fallacy เท่านั้นเอง

ที่จริง ผมแสดงให้คุณเห็นสิ่งที่เรียกว่า FOMO หรือ Fear of Missing Out ซึ่งเป็นความกลัวที่จะพลาดอะไรบางอย่างตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของบทความแล้ว (ทั้งทั้งหัวข้อ และประโยคแรกที่ผมบอกคุณอาจจะเสียใจ)

ไม่แน่ใจว่าที่คุณอ่านบทความถึงตรงนี้ เป็นเพราะหัวข้อ หรือการเกริ่นนำต้นบทความมากแค่ไหน แต่คุณน่าจะได้เห็นการทำงานของอคติทางความคิดที่ชื่อ FOMO กันไปบ้างแล้ว…แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปนะครับ

ถ้าอยากตัดสินใจให้ดียิ่งขึ้น อ่าน วิธีสร้างทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เพื่อนำไปปรับใช้กับโจทย์ของคุณ คลิกที่นี่

===

การแก้ปัญหาและการตัดสินใจเป็นทักษะที่คุณสามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ เราขอแนะนำหลักสูตร Problem Solving & Decision Making คลิกดูรายละเอียดที่นี่ 

บทความโดย

อ.ป้อบ มาติก ตั้งตรงจิตร, CFA, FRM

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการโน้มน้าวและการเจรจาต่อรอง

Learning Hub Thailand – เราพัฒนาคนในองค์กร ให้เพิ่มศักยภาพและทำงานอย่างมีความสุข

ปรึกษาเรื่องการพัฒนาทีมในองค์กร ติดต่อ Line @lhtraining หรือ โทร 0939254962

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Ads, Google Analytics

    Statistics

  • Google Analytics

    Statistics

  • Facebook

    Marketing/Tracking

  • ActiveCampaign

    Functional

  • ActiveCampaign

    Marketing/Tracking

Save