5 วิธีฟื้นคืน จากวิกฤตชีวิต

ยากเหลือเกินที่จะยิ้มและใช้ชีวิตได้อย่างปกติ หากต้องเผชิญกับความท้อแท้สิ้นหวังจากสถานการณ์ต่าง ๆ 

ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตด้านการเงิน การตกงานกะทันหัน การถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ  หรือความสัมพันธ์ที่ไปไม่รอด

การสูญเสียคนรักอย่างกะทันหัน หรือความเจ็บป่วยเรื้อรังของญาติผู้ใหญ่

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่ใช่หรือเปล่า 

====

ซ้ำร้ายกว่านั้น ในยามที่ชีวิตเป็นขาลง ดูเหมือนอะไรๆก็จะเข้ามาตามซ้ำเติม

ปัญหาหนึ่งยังไม่จบ ปัญหาใหม่ๆก็เข้ามาทับถม และส่งผลกระทบถึงเรื่องอื่นต่อๆไป

คุณทำอย่างไร เมื่อชีวิตอยู่ในช่วงวิกฤต

====

   ในช่วงเวลาแบบนี้คุณจะพบว่า ในใจมีแต่ความกลัวและความเจ็บปวด เพราะความหวังพังทลาย  คุณรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ รู้สึกไร้คุณค่าและไม่ดีพอ รู้สึกสิ้นหวังและไม่มีกำลังใจจะก้าวเดินต่อ

สิ่งที่เกิดขึ้น อาจทำให้คุณจมอยู่ความรู้สึกย่ำแย่ และเศร้าโศกเนิ่นนาน จนกลายเป็นความซึมเศร้า ขาดกำลังใจที่จะใช้ชีวิต

คุณไม่รู้ว่าจะลุกขึ้นมาอีกครั้งได้อย่างไร ไม่ว่าใครจะมาพูดหรือปลอบโยนเท่าไหร่ ก็ไม่อาจช่วยให้คุณดีขึ้นมาได้เลย…

====

ตามกฎของจักรวาล “ทุกสิ่งไม่เที่ยงและจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอ”

ดังนั้นโชคร้ายก็จะไม่อยู่กับคุณตลอดไป ในเมื่อชีวิตมีขาลงก็ย่อมมีขาขึ้น

ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ ข่าวดีก็จะมาเยือน แล้วคุณก็จะลุกขึ้นมาได้อย่างแน่นอน

แต่จะดีขนาดไหนถ้าหากเรามีวิธีที่จะทำให้ตัวเองดีขึ้นได้ในเร็ววัน

และต่อไปนี้คือ 5 วิธีที่จะช่วยคุณให้ฟื้นคืนจากวิกฤตชีวิตได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง 

====

1. ยอมรับและเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

มีความทุกข์อยู่ 2 อย่าง คือ ทุกข์ที่ทำให้คุณเจ็บปวด และทุกข์ที่ทำให้คุณเปลี่ยนแปลง

คุณจะเจ็บปวดก็ต่อเมื่อคุณต่อต้านมัน หากคุณยอมรับและพร้อมที่จะเดินไปกับมันได้ สิ่งนั้นจะนำมาซึ่งการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่สำหรับคุณ 

อย่างแรกที่คุณต้องทำก็คือ ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าคุณจะไม่ชอบมันเลยก็ตาม  การดิ้นรนต่อสู้กับมัน ด้วยความคาดหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้น(หรือหายไป)  จะยิ่งเสียพลังงานและเสียเวลาไปเปล่าๆ

การยอมรับจะทำให้คุณกลับมาพบความสงบในใจ และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อในทิศทางใหม่ๆ

การปล่อยวางจะง่ายยิ่งขึ้น หากคุณ“ให้อภัย” ไม่ว่าจะเป็นกับตัวคุณเอง กับใครบางคน หรือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว

การให้อภัยจะปลดปล่อยตัวคุณจากความเครียด ความกดดัน ความกังวล ความยึดติดกับอดีตและอนาคตทั้งหลาย

การยอมรับและการอภัย จะช่วยให้ใจของคุณรู้สึกเบาสบายขึ้น เป็นอิสระจากสิ่งที่คุณยืดถือและคาดหวังว่าจะต้องเป็น แม้ว่าสิ่งภายนอกจะยังเหมือนเดิมก็ตาม

====

2. โอบกอดตัวเองในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง

หากคุณหมดความมั่นใจ หมดความเชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง แสดงว่าคุณกำลังอยากจะเป็นใครคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวคุณเอง 

ถามตัวเองว่า ฉันกำลังคาดหวังความสมบูรณ์แบบในชีวิตอยู่หรือเปล่า ลองฝึกมองอดีตที่ผ่านมาของตัวเอง จะพบว่าตัวคุณก็มีความสำเร็จเกิดขึ้นมาแล้วตั้งมากมาย

สิ่งที่คุณต้องการก็คือ การโอบกอดและยอมรับตัวเอง ในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง

ระวังการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ชื่นชมความสำเร็จและมองเห็นความสวยงามของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ 

คุณคือคนธรรมดาที่สามารถทำผิดพลาดได้ มีความกังวล มีความกลัวอยู่เป็นปกติธรรมดาเช่นเดียวกับมนุษย์ทุกคน 

คุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ หรือไร้ข้อผิดพลาด คุณก็สามารถยอมรับและรักตัวเองได้

====

3. เตือนตัวเองว่า ทุกสิ่งเป็นของชั่วคราว

การก้าวข้ามที่สำคัญในชีวิต เกิดขึ้นเมื่อคุณตระหนักว่าสิ่งเลวร้ายต่างๆในชีวิต ทั้งที่เป็นข้อจำกัด ความล้มเหลว ความผิดพลาด ความสูญเสีย โชคร้ายและความเสื่อมถอย เป็นเพียงของชั่วคราวเท่านั้น

และหลายครั้งมันผ่านไปแล้ว แต่ความคิดของคุณยังทำให้มันคงอยู่ ไม่ไปไหน 

ความทุกข์และความไม่แน่นอน เป็นของชั่วคราว มันไม่มีทางอยู่ยั่งยืนไปตลอดกาล

เวลาจะค่อย ๆ เยียวยาจิตใจของคุณ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานับเดือนนับปี แต่ท้ายที่สุดมันก็จะผ่านไป

ชีวิตคือภาพยนตร์เรื่องยาวที่จะหมุนต่อไปไม่หยุดนิ่ง ฉะนั้นอย่าให้ความทุกข์แค่บางฉากบางตอนมาเปลี่ยนตัวตนที่แท้จริงของคุณไปอีกเลย 

คนที่เข้มแข็งคือคนที่ร้องไห้ได้อย่างเปิดเผย แล้วก็พร้อมก้าวต่อไปเมื่อหยาดน้ำตาเหือดแห้งลง

====

4. มองหาสิ่งที่ขอบคุณได้ ในช่วงเวลานี้

การขอบคุณ คือการเยียวยาตัวเองที่เรียบง่ายและเป็นวิธีช่วยฟื้นฟูจิตใจเราได้อย่างน่าอัศจรรย์ 

ในภาวะที่กำลังจมอยู่กับตัวเองและความทุกข์ ลองมองหาสิ่งที่จะขอบคุณ ซึ่งจะเป็นอะไรก็ได้รอบตัว 

แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเล็กน้อยและธรรมดาแค่ไหนเราก็ขอบคุณ(ระลึกถึงคุณค่าของมัน) ได้เสมอ เช่น 

ขอบคุณที่ยังมีลมหายใจ ขอบคุณความรักจากคนรอบตัว ขอบคุณสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากเรื่องนี้

ฯลฯ 

หากเราลดการมองสิ่งที่ขาดหายไป แล้วหันมาขอบคุณสิ่งที่มีอยู่ ด้วยความรู้สึกสำนึกคุณ จะพบว่าหลายๆครั้งได้มองข้ามอะไรไปบ้าง

สิ่งที่สูญเสียไป คงเอากลับมาไม่ได้ แต่จะดีแค่ไหน ที่คุณได้ค้นพบสิ่งมีค่าที่ยังอยู่กับชีวิตที่เหลือนี้ 

====

5. ยื่นมือออกไป ช่วยใครสักคน

ความท้อแท้ในชีวิต ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะคุณรู้สึกสมเพชตัวเอง แม้มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แต่คุณก็ทำอยู่บ่อย ๆ โดยที่คุณอาจจะไม่รู้ตัว

ถ้าคุณสามารถจับความคิดได้ว่า คุณเริ่มดูถูกและต่อว่าตัวเอง ให้หยุดพักจากการสนใจตัวเองชั่วคราวแล้วมองไปที่ผู้คนรอบตัว

ลองหาทางที่จะช่วยเหลือใครสักคน แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เชื่อไหมว่าการช่วยเหลือคนอื่นจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้แทบจะทันทีเลยทีเดียว 

เมื่อไหร่ที่คุณอยากได้รับการใส่ใจ ให้คุณใส่ใจผู้อื่น  จงดูแลเขาให้เหมือนกับที่คุณต้องการได้รับการดูแลด้วยจิตที่เมตตา และอ่อนโยน

 

การได้ช่วยเหลือใครสักคน จะทำให้คุณตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย ที่ขังคุณไว้ในจิตใจอันโดดเดี่ยวของตัวเอง

====

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังท้อแท้สิ้นหวัง ขอให้รู้ว่า คุณไม่ได้เผชิญกับสถานการณ์นี้เพียงลำพัง

คนรอบตัวที่รักคุณ ต่างรู้สึกและได้รับผลกระทบจากความเศร้าและสิ้นหวังของคุณอยู่เช่นกัน

ยิ่งทำร้ายตัวเอง ก็จะยิ่งทำให้พวกเขาเจ็บปวดไปด้วย

ถ้านั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ ลองนำวิธีการทั้ง 5 ข้อนี้ในการพาตัวเองให้ฟื้นคืนขึ้นมาจากวิกฤตชีวิตและการงานดูสิครับ 

นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังช่วยให้ชีวิตตัวเองและคนรอบตัวดีขึ้นไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว 

เมื่อฟื้นคืนจากวิกฤตชีวิตได้แล้ว ขั้นต่อไปคุณน่าจะอยากพัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น อ่าน 5 พฤติกรรมที่คนสำเร็จจะไม่มีวันทำ คลิกที่นี่

====

บทความโดย CEO เรือรบ – ผู้ก่อตั้ง Learning Hub Thailand / ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาภาวะผู้นำ

ถ้าคุณสนใจเรียนรู้และฝึกฝนพัฒนา Mindset และทักษะของผู้นำยุคใหม่ ผมมีหลักสูตร The New Leadership Skills เพื่อพัฒนาให้คุณเป็นผู้นำที่พร้อมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ คลิกดูรายละเอียดที่นี่

Learning Hub Thailand – เราพัฒนาคนในองค์กร ให้เพิ่มศักยภาพและทำงานอย่างมีความสุข 

ปรึกษาเรื่องการพัฒนาทีมในองค์กร ติดต่อ Line @lhtraining หรือ โทร 0939254962



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Ads, Google Analytics

    Statistics

  • Google Analytics

    Statistics

  • Facebook

    Marketing/Tracking

  • ActiveCampaign

    Functional

  • ActiveCampaign

    Marketing/Tracking

Save