ประสบความสำเร็จได้มากขึ้นด้วยการเป็นผู้นำที่ฉลาดทางอารมณ์
คุณคิดว่าผู้นำแบบไหนจะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน
ระหว่างผู้นำที่เกิดสถานการณ์ตึงเครียดแล้วหน้าแดงก่ำ กำหมัดพร้อมตะคอกใส่ลูกน้อง
หรือผู้นำที่ยังดูใจเย็นราวกับควบคุมทุกอย่างได้ และค่อยๆ หาทางแก้สถานการณ์อย่างน่านับถือ
====
เชื่อว่า ‘ผู้นำที่สมบูรณ์แบบ’ ในใจหลายคน น่าจะเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ว่าจะเกิดปัญหาหรือเกิดวิกฤตเพียงใด รวมถึงเป็นคนที่ให้ความไว้วางใจแก่ลูกทีม เปิดใจรับฟัง เข้าถึงและพูดคุยด้วยง่าย ไปจนถึงตัดสินใจได้อย่างมีหลักการและมีความระมัดระวัง
ด้านดี ๆ ของผู้นำมักจะมาจากสิ่งที่เรียกว่า ‘ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)’ หมายถึง ความสามารถที่จะเข้าใจและจัดการอารมณ์ของตัวเอง ตลอดจนอารมณ์ของผู้คนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงจะรู้ทันอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง เข้าใจอารมณ์ที่เกิดขึ้น และหาทางจัดการได้อย่างยอดเยี่ยม
====
สำหรับคนที่เป็นผู้นำ ความฉลาดทางอารมณ์จะนำไปสู่ความสำเร็จที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่ง ‘Daniel Goleman’ นักจิตวิทยาและนักเขียนชื่อดังชาวอเมริกันกล่าวว่ามี 5 องค์ประกอบย่อยที่คุณต้องฝึกฝน
1.รู้ตัวเอง (Self-awareness)
คือ การรู้เท่าทันตัวเองว่ารู้สึกอย่างไร อยู่ในอารมณ์แบบไหน หากทำอะไรออกไปจะกระทบกระเทือนคนอื่นอย่างไร ผู้นำที่รู้ตัวเองยังหมายถึงคนที่เห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง เข้าใจความเป็นมนุษย์ของตัวเองและผู้อื่นด้วย
การจะพัฒนาทักษะการรู้จักตัวเองนี้ ทำได้ด้วยการฝึกเขียนบันทึก ใช้เวลาในแต่ละวันจดสิ่งที่คิดและรู้สึก เมื่อผ่านไปสักระยะจะทำให้เห็นภาพตัวเองชัดเจนขึ้น
นอกจากนี้ ยังควรฝึกดึงตัวเองให้ช้าลงเมื่อเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเวลาที่เริ่มเกิดอารมณ์หงุดหงิดหรือรำคาญขึ้นมา
การดึงตัวเองให้ช้าลงจะทำให้คุณมีเวลาในการรับมือและแสดงออกได้ดีกว่าเดิม
====
2.จัดระเบียบตัวเอง (Self-regulation)
ความสามารถในการตั้งกฎเกณฑ์และจัดการตัวเองให้ได้ จะมีผลทำให้ควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น เช่น ไม่พูดต่อว่าหรือประชดออกไป ไม่ตีตราผู้คน ไม่ด่วนตัดสินใจ ทั้งหมดนี้ยังทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในสายตาคนอื่นด้วย
ผู้นำควรจะมีหลักการ มีคุณค่าที่ยึดถือชัดเจน ไม่ประนีประนอมกับสิ่งไม่ถูกต้อง (ไม่เช่นนั้นจะโดนด่าว่าเป็นคนที่ไม่มีหลักการที่ยึดถือเลย) รู้ว่าในสถานการณ์ใดจะต้องทำตัวอย่างไรให้สอดคล้องกับสิ่งที่ยึดถือ
นอกจากนี้จะต้องชัดเจนว่าอะไรถูกอะไรผิด ถ้าทำผิดพลาดก็ต้องยอมรับและปรับปรุง เพื่อให้คนรับรู้ว่าคนคน นี้ยึดถือในหลักการ และท้ายที่สุด คุณควรจะฝึกให้ตัวเองสงบใจเมื่อพบเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก การสูดหายใจลึก ๆ จนความคิดจิตใจเริ่มสงบ จะช่วยแสดงภาวะผู้นำของคุณได้เป็นอย่างดี
====
3.กระตุ้นปลุกเร้า (Self – Motivation)
ผู้นำที่ดีจะสามารถปลุกเร้าตนเองและคนอื่นให้ถึงเป้าหมายได้ โดยมีมาตรฐานการทำงานสูง การพัฒนาทักษะนี้ทำได้โดย การกลับมาสำรวจถึงเหตุผลที่ทำงานดังกล่าว เพื่อทำให้เกิดการย้ำเตือนตัวเองว่า เราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร และต้องการอะไร การเห็นภาพความสำเร็จและแรงจูงใจในการทำงานจะทำให้มีผลงานที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังควรที่จะระลึกอยู่เสมอว่าตัวเองคือ ผู้นำ ซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นทีมงาน ควรจะทำให้คนในทีมรู้สึกได้ถึงความหวังและตระหนักว่ามีสิ่งดี ๆ รออยู่ข้างหน้า อาจกล่าวโดยสรุปว่าเป็นคนที่ส่งพลังบวกไปให้คนทุกคนในทีมได้นั่นเอง
====
4.เข้าอกเข้าใจคนอื่น (Empathy)
การเป็นผู้นำคือการพยุงทีมทั้งหมดให้ไปด้วยกัน ผู้นำที่ดีจะต้องเข้าใจคนที่มาร่วมงานด้วย เข้าใจความรู้สึก เข้าใจสถานะและเข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังเผชิญ ฉะนั้นใครที่เข้าอกเข้าใจ มีความเห็นใจลูกน้อง จะทำให้เขาได้รับความจงรักภักดีไปโดยปริยาย
การพัฒนาองค์ประกอบนี้ ทำได้โดยการฝึกมองว่าถ้าตัวเองอยู่ในบทบาทหน้าที่ของลูกน้องจะเป็นอย่างไร ความรู้สึก ความต้องการ อุปสรรค และแรงบันดาลใจของเขามาจากไหน
นอกจากนี้ ยังควรใส่ใจรายละเอียดต่างๆ ที่จะทำให้เห็นถึงความรู้สึกแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาษากาย
และท้ายที่สุดแล้วคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการแสดงออกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเราเข้าใจความรู้สึก เข้าใจความเหน็ดเหนื่อยและตึงเครียดต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเขา ถ้าเป็นไปได้ หาทางชดเชยให้แก่เขาด้วยก็จะดีมาก
ถ้าคุณอยากฝึกเข้าอกเข้าใจผู้อื่นให้มากยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้คุณฝึก ทักษะการฟังอย่างเข้าอกเข้าใจ (Empathic Listening) คลิก ที่นี่
====
5.ทักษะการเข้าสังคม (Social Skills)
ผู้นำที่ดีควรจะมีความฉลาดทางอารมณ์เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม นั่นคือ เป็นนักสื่อสารที่ยอดเยี่ยม ทำให้ลูกน้องได้รับข้อมูลข่าวสารไปจนถึงอารมณ์ความรู้สึกในการทำงานที่เป็นบวก ทักษะนี้ยังรวมไปถึงการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ผู้นำควรจะเรียนรู้ว่าหนทางในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งกับคนในทีม ลูกค้า หรือคู่ค้า จะต้องมีกระบวนการอย่างไร ควรพัฒนาทักษะทางการสื่อสาร ตลอดไปจนการรู้จักยกย่องชื่นชมคนอื่น อย่างเหมาะสมเพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานร่วมกันให้ดียิ่งขึ้น
ทักษะทั้ง 5 นี้ หากผู้นำได้พัฒนาอย่างเหมาะสมแล้วล่ะก็ จะทำให้เกิดความฉลาดทางอารมณ์ อันเป็นหนทางสู่ความสำเร็จในฐานะของผู้นำองค์กรอย่างแน่นอน
====
หากคุณอยากให้ตัวเองและทีม มีความมั่นใจและพัฒนา EQ เพื่อเป็นผู้นำที่ดีขึ้น ขอแนะนำหลักสูตร Emotion Intelligence ผู้นำฉลาดทางอารมณ์ ที่จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้ทักษะทั้ง 5 ได้เป็นอย่างดี คลิกดูรายละเอียดที่นี่
เรียบเรียงโดย Learning Hub Thailand เราพัฒนาคนในองค์กร เพื่อเพิ่มศักยภาพและทำงานอย่างมีความสุข
ปรึกษาเรื่องการพัฒนาทีมในองค์กร ติดต่อ Line @lhtraining หรือ โทร 0939254962
Recent Posts
- 3 กติกาง่าย ๆ ที่ทำให้ทุกฝ่ายมีความสุขในการประชุม
- 5 เคล็ดลับ เปลี่ยนคนเบื่องาน ทะยานสู่ TOP 5 ในออฟฟิศ
- 5 เคล็ดลับ เปลี่ยนวันจันทร์ ให้เป็นวันสุข
- 5 วิธีสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานเจ้าอารมณ์
- 7 ขั้นตอนทำงานร่วมกับเจ้านายดุให้มีประสิทธิภาพและมีความสุข
- วิธีทำชีวิตช้าลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
- 5 เทคนิครับมือกับเพื่อนร่วมงานเจ้าปัญหา
- 7 เทคนิค เลือกลูกน้องอย่างไรไม่ให้เปลี่ยนงานบ่อย
- 4 ขั้นตอน ลดความขัดแย้งภายในทีม
- 8 วิธีสร้างความน่าเชื่อถือในที่ทำงาน