เคล็ดลับการตั้งเป้าหมายให้สำเร็จได้จริง

เชื่อหรือไม่ว่ามีสูตรแห่งความสำเร็จที่เมื่อคุณทำตาม คุณจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

แต่จากนิทานเรื่อง “ยักษ์กับตะเกียงวิเศษ” ได้สอนให้รู้ว่า เราควรระวังการใช้คำในการอธิษฐานขอบางสิ่ง

การใช้สูตรในการตั้งเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ ก็เช่นกัน เพราะมันมีบางสิ่งบางอย่างที่เราต้องระวัง ซึ่งก็คือ…

====

1. แม้จะเป็น “สูตรสำเร็จ” แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำได้ง่ายๆ สูตรสำเร็จไม่ใช่เวทมนตร์วิเศษที่จะเกิดขึ้นได้ทันทีทันใด

2. คุณต้องมี “ความชัดเจน” ว่าการประสบความสำเร็จสำหรับคุณหมายถึงอะไร  เพราะบางทีอาจไม่ได้หมายความถึงการมีเงินทองมากมายเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นคุณต้องชัดเจน ว่าคุณต้องการอะไรกันแน่

3. คุณต้อง “ทำตามขั้นตอน” หลายคนอยากทำข้ามขั้นตอน การทำตามขั้นตอน จะทำให้คุณมีพื้นฐานที่มั่นคง หลังจากนั้น คุณก็จะสามารถปรับแต่งรูปแบบของตัวคุณเองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด


4. คุณควร “เปลี่ยนความคิด” ที่ว่า สูตรยิ่งซับซ้อน ยิ่งมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น… ความธรรมดาไม่ได้แปลว่าง่าย ความซับซ้อนไม่ได้เพิ่มโอกาสความสำเร็จ… สูตรที่ดีที่สุดคือสูตรธรรมดาๆ ที่เน้นความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และผ่านการใช้สติปัญญาไตร่ตรองมาแล้วอย่างรอบคอบ

====

เรามาศึกษา “สูตรการตั้งเป้าหมายเพื่อความสำเร็จ” กันเลยดีกว่า 


คิดให้ถ้วนถี่ว่า “ความสำเร็จของคุณคืออะไร” รู้ให้ได้ว่า “คุณต้องการอะไร” แม้คุณอาจรู้สึกว่า เคยคิดถึงเรื่องเหล่านี้และมีคำตอบอยู่แล้วก็ตาม
แต่คุณแน่ใจแล้วหรือ

ลองทดสอบตัวเองสักหน่อยไหม?

เริ่มจาก…ให้คุณเขียนถึง “ความสำเร็จ” ในความหมายของคุณ โดยเขียนแบบไม่หยุด เป็นเวลา 5 นาที หากนึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไร ลองมาดูตัวอย่างกัน…

ถ้าความสำเร็จของคุณคือการมีเงินทองมากมาย

ลองเขียนเพิ่มเติมว่าคุณอยากมีเท่าไหร่ล่ะ จะใช้เงินเหล่านี้ทำอะไร คุณจะแบ่งให้ใครบ้าง อะไรเป็นค่าใช้จ่ายหลักและค่าใช้จ่ายรองของคุณ จะเก็บเงินเหล่านี้ไว้ที่ไหน จะบริจาคเงินบางส่วนเพื่อการกุศลหรือไม่ เพราะอะไร

====

ถ้าความสำเร็จของคุณคือการมีหนังสือสักเล่ม

เขียนเพิ่มเติมว่าคุณจะเขียนหนังสือเรื่องอะไร เพื่อใคร คุณอยากไปให้สัมภาษณ์ในรายการทอล์คโชว์รายการไหน คุณอยากได้ยินคนพูดว่า “ฉันชอบหนังสือเล่มนี้จัง” หรือเปล่า ปกหนังสือของคุณจะเป็นอย่างไร และจะวางขายในประเทศใดบ้าง

====

ถ้าความสำเร็จคือการลดน้ำหนัก

เขียนเพิ่มเติมว่าคุณต้องการลดส่วนไหนของร่างกายบ้าง อยากลดทุกส่วน หรือเฉพาะหน้าท้อง บั้นท้าย จะลดเท่าไหร่ ใช้เวลานานแค่ไหน เพื่ออะไร จะลดด้วยวิธีใด จะอดอาหารหรือไม่ ถ้าจะวิ่ง จะวิ่งที่ไหน แต่ละครั้งนานเท่าไหร่ จะเริ่มวิ่งตอนกี่โมง แล้วจะวิ่งทุกวันหรือไม่
====

ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย ถ้าหากสามารถเขียนออกมาได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และชัดเจน นั่นแสดงว่าคุณกำลังเห็น “ภาพที่ชัดเจน” ว่าคุณต้องการอะไร?

การเริ่มต้นมองเห็น และเห็นได้อย่างต่อเนื่อง เป็นส่วนสำคัญของการประสบความสำเร็จ

เราต้องจินตนาการภาพแห่งความสำเร็จให้ได้ ก่อนที่จะทำให้ภาพเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง

แต่ถ้าคุณรู้สึกเบื่อ หรือไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดี? นั่นอาจเป็นเพราะว่า “คุณยังใช้ความพยายามไม่มากพอ” คุณต้องตั้งใจให้มากขึ้น ใส่ใจให้มากขึ้น จงลุกขึ้นยืน ยืดเส้นยืดสาย ออกไปเดินเล่นสักพัก แล้วกลับมาเขียนอีกครั้ง

คุณอาจใช้รูปภาพช่วยขยายความ.. อย่าหยุดเขียนจนกว่าคุณจะได้ภาพที่ชัดเจนอย่างแท้จริง เป็นภาพความต้องการที่คุณอยากเป็นอย่างนั้นจริงๆ

====

ในช่วงแรกอาจมีรายละเอียดย่อยๆ เช่น  จินตนาการภาพที่คุณต้องการ, สำรวจดูว่าอะไรเป็น “สิ่งที่คุณต้องการ” แทนที่มัวแต่คิดว่า อะไรเป็น “สิ่งที่คุณไม่ต้องการ”

เพราะหลายคนตั้งเป้าความสำเร็จในแบบ “สิ่งที่ไม่ต้องการ” เช่น ฉันไม่ต้องการเป็นคนอ้วน (ซึ่งจริงๆ แล้ว คือต้องการเป็นคนผอม หรือต้องการลดน้ำหนัก), ฉันไม่ต้องการทำงานที่นี่ (แล้วคุณต้องการทำงานอะไร?), ฉันไม่ต้องการทำงานดึกดื่น (แล้วคุณต้องการกลับกี่โมง?)

 

การพูดถึงสิงที่ต้องการกับสิ่งที่ไม่ต้องการ ฟังเผินๆ ดูเหมือนไม่ต่างกัน แต่เราอยากแนะนำว่า คุณควรจะตั้งเป้าหมายในแบบ “สิ่งที่คุณต้องการ” เนื่องจาก…

1) สิ่งที่เป็นเชิงบวก เป็นสิ่งที่สามารถวัดได้ เช่น คุณตั้งเป้าหมายของคุณว่า “ฉันต้องการกลับบ้านตอน 6 โมงเย็น” จะทำให้คุณสามารถวัดได้อย่างง่ายดาย เมื่อเทียบกับ “ฉันไม่อยากทำงานจนดึกดื่น”

2) การสั่งให้สมองทำในสิ่งลบ ใช้ไม่ได้จริง! หากมีใครบอกให้คุณอย่าคิดถึงลิงกอริลล่า แล้วคุณทำได้ไหม? หรือการสั่งตัวคุณให้ไม่อ้วน เป็นเรื่องที่ทำยากกว่าการสั่งให้ตัวคุณลดน้ำหนักลงสัก 5 กิโลกรัม… ลองนึกเป็นภาพแสดงความสำเร็จของ “ความผอม” ภาพนั้นจะต้องแสดงถึง “สิ่งที่คุณต้องการ” เพราะจะเป็นการยากกว่ามาก ที่นึกภาพ “ไม่อ้วน” ของคุณ

คุณต้องตัดสินใจให้ชัดเจนที่สุด โดยใช้ความรู้สึกที่แท้จริงของคุณว่าอะไรคือ “สิ่งที่คุณต้องการ” ไม่ใช่ “สิ่งที่คุณไม่ต้องการ”

====

จากนั้นให้เริ่มต้นทำจริงจัง เช่น จะลดน้ำหนัก หรือเริ่มหัดวาดรูป โดยคุณต้องมี “กลยุทธ์” ในการทำสิ่งเหล่านี้…

หลายคนเริ่มทำโดยปราศจากกลยุทธ์ หรือเริ่มทำโดยใช้วิธีการเดิมๆ เช่น

ถ้าต้องการหางานใหม่ ก็จะไปหางานในประกาศรับสมัครงานตามสื่อต่างๆ แล้วก็เลือกไปสมัครงานที่สนใจ

หรือหากต้องการลดน้ำหนัก ก็ไม่รับประทานของกินที่มีน้ำตาล

กลยุทธ์เดิมๆ เหล่านี้ นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดี ถ้าหากยังสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้จริง แต่หากไม่ได้ผล คุณจำเป็นต้องหากลยุทธ์ที่แตกต่างออกไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

====

แล้วจะได้กลยุทธ์มาจากไหน? แหล่งที่ดีก็คือ จากคนที่ทำเรื่องนั้นได้สำเร็จ ศึกษาและเลียนแบบกลยุทธ์ของเขา

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการดำเนินการประชุมให้ได้ดี ลองสังเกตว่า ใครเป็นคนที่คุณรู้สึกว่าดำเนินการประชุมได้ดี หรือค้นหาเพื่อนๆ ของคุณที่มีงานดีๆ ทำ พวกเขาอาจมีวิธีการหางานที่ต่างออกไป คุณอาจเป็นการเขียนจดหมายถึงที่ทำงานที่คุณต้องการทำ แทนที่จะอ่านจากประกาศรับสมัครงาน

จงตั้งคำถามกับตัวคุณเองว่า สิ่งที่ผู้ประสบความสำเร็จเหล่านั้น “ทำจริงๆ” คืออะไร? (ขอย้ำว่า “ทำจริงๆ” ไม่ใช่สิ่งที่ “เขาพูดว่าเขาทำอะไร” หรือ “เขาคิดว่าเขาทำอะไร”)

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป้าหมายของคุณ คือการเป็นผู้จัดการการประชุมที่ดี สิ่งที่คุณต้องการก็คือ ความเป็นเลิศในการดำเนินการประชุม สมมติว่าคุณรู้ว่า คุณต้องการพัฒนาด้านใด จงหาคนที่ทำสิ่งนั้นได้ดี และถามเขาว่า “เขาทำอย่างไร”

====

คำแนะนำ

1) พยายามอย่างเต็มที่ ในการศึกษาว่า เขา “ทำจริงๆ” อย่างไร? แทนที่จะเป็นคำบอกเล่าว่า เขาคิดว่าเขาทำอย่างไร? วิธีที่ดีที่สุดคือ “การเฝ้าสังเกตคนเหล่านั้นในขณะที่พวกเขาทำงานจริง ๆ ”

2) แน่นอนว่าไม่มีใครว่างให้คุณติดตามชีวิตได้ง่ายๆ แต่จงจำไว้ว่า คำว่า “ไม่” ไม่ได้หมายความว่า “ไม่มีทางเป็นไปได้” มันเป็นแค่ “ไม่ใช่ในตอนนี้” ฉะนั้นจงอย่าท้อถอย คุณอาจนัดหมายเวลาที่เหมาะสมสำหรับเขา ขอเวลาจากเขาเพียงแค่ 10 นาที 

====

เมื่อคุณเริ่มเห็นผลจากสิ่งที่คุณทำ คุณรู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหรือเปล่า?

คุณทำงานเป็นระบบมากขึ้นหรือไม่?

คุณมีรูปร่างที่ได้สัดส่วนมากขึ้นหรือยัง?

คุณรู้สึกพอใจกับวิธีการใหม่ๆ ในการจัดการทีมของคุณหรือยัง?

ถ้าสิ่งต่างๆ กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี จงดำเนินต่อไป อย่าย่อท้อ คุณจะพบกับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

แต่ถ้ามันไม่ได้ผล “ให้รีบเปลี่ยนกลยุทธ์” เนื่องจากกลยุทธ์ที่คุณใช้อยู่ อาจยังไม่ดีพอ หรือไม่เหมาะกับคุณ หรือไม่เหมาะกับปัจจุบันก็ได้ 

สิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้เป้าหมายของคุณสำเร็จได้จริงก็คือการทำสิ่งที่คุณผลัดวันประกันพรุ่งมาตลอด เรียนรู้วิธีเพิ่มพลังให้ตัวเองทำงานที่รู้สึกไม่อยากทำ คลิกที่นี่

หากคุณทำสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นได้ดีแล้ว… ขั้นตอนต่อไป คือทำทุกสิ่งข้างต้นให้ “กลายเป็นกิจวัตรของคุณ”

เช่น อยากหางานใหม่ จงเริ่มต้นหาความรู้จากการอ่าน… แสวงหากลยุทธ์จากคนรอบข้าง… สมัครงานที่คุณอยากทำ… และทำสิ่งต่างๆ ไปตาม “สูตรแห่งความสำเร็จ” ที่คุณออกแบบด้วยตัวคุณเอง

หนึ่งในทักษะสำคัญที่ช่วยให้คุณทำได้สำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้คือทักษะการบริหารเวลา ขอแนะนำหลักสูตร Effective Time Management ดูรายละเอียดที่นี่

====

เรียบเรียงโดย

Learning Hub Thailand – เราพัฒนาคนในองค์กร ให้เพิ่มศักยภาพและทำงานอย่างมีความสุข

ปรึกษาเรื่องการพัฒนาทีมในองค์กร ติดต่อ Line @lhtraining หรือ โทร 0939254962

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Ads, Google Analytics

    Statistics

  • Google Analytics

    Statistics

  • Facebook

    Marketing/Tracking

  • ActiveCampaign

    Functional

  • ActiveCampaign

    Marketing/Tracking

Save